อาการคันน้องสาวอย่าปล่อยไว้รีบแก้ไขก่อนสาย
สำหรับผู้หญิงอาการคันน้องสาวปกติแล้วมักเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว อันเนื่องมาจากหลายสาเหตุซึ่งอาการดังกล่าวมักสร้างความรำคาญและยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตอีกหลายด้าน บทความนี้จะมาไขความกระจ่างให้ได้ทราบกันว่า อาการคันน้องสาว เกิดจากอะไร มักเกิดกับใครบ้าง หลายคนคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ จึงปล่อยให้หายเองจะได้ไหม พร้อมแนะนำวิธีรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม อยากรู้กันแล้วใช่ไหมค่ะ มาติดตามกันได้ในบทความนี้เลย
อาการคันน้องสาว มักเกิดกับผู้หญิงวัยไหน
โดยปกติแล้วอาการคันน้องสาวภายนอกหรืออาการคันที่ปากช่องคลอดอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อ อาการแพ้หรือความไวของผิว รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งภาวะดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกวัย โดยมีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้เกิดบ่อยขึ้นในบางช่วง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงในแต่ละคน
คันน้องสาว เกิดจากอะไร
มีหลายปัจจัยด้วยกันที่ส่งผลทำให้เกิดอาการคันน้องสาว เกิดจากอะไร หรือคันอวัยวะเพศภายนอกของผู้หญิง ต่อไปนี้คือ สาเหตุที่พบได้บ่อยที่ผู้หญิงทุกคนควรสังเกตและรู้ไว้ซึ่ง มีดังนี้
-
การกำจัดขนน้องสาว
การกำจัดขนน้องสาวไม่ว่าจะเป็นการโกน แวกซ์ ถอน หากทำบ่อย ๆ อาจทำให้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศเกิดการระคายเคือง โดยเฉพาะถ้าไม่ดูแลผิวหลังทำอย่างเหมาะสม
-
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีบริเวณน้องสาว
ผลิตภัณฑ์ดูแลบริเวณจุดซ่อนเร้นบางยี่ห้อ อาจมีส่วนผสมของสารเคมี น้ำหอม และอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง โดยเฉพาะในคนที่มีผิวที่บอบบางมาก ๆ
-
การสวมเสื้อผ้าที่รัดรูป
การสวมกางเกงใน หรือเสื้อผ้าที่รัดมากเกินไปจะทำให้เกิดความร้อนและความชื้นสะสม ซึ่งสภาพแวดล้อมดังกล่าวเอื้อต่อการเจริญเติบโตของยีสต์หรือแบคทีเรีย อันเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังซึ่งทำให้เกิดอาการคันได้
-
การติดเชื้อบริเวณช่องคลอด
เชื้อรา (แคนดิดา) และแบคทีเรียวาจิโนซิส เป็นเรื่องปกติที่เกิดได้ในหญิงวัยเจริญพันธุ์ โดยมักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือการใช้ยาปฏิชีวนะ หรือความเครียด ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการระคายเคืองและคันน้องสาวได้เช่นกัน
-
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STI)
พบได้ในผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ซึ่งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม หูด เริมหรือเชื้อไตรโคโมนาส ก็สามารถทำให้เกิดอาการคันและระคายเคืองได้
-
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
หญิงวัยหมดประจำเดือนระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลง ส่งผลให้เนื้อเยื่อช่องคลอดแห้งและบาง ซึ่งทำให้เกิดอาการคัน เรามักเรียกว่าภาวะช่องคลอดอักเสบ หรือแม้แต่การตั้งครรภ์และการคุมกำเนิด อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนซึ่งอาจทำให้เกิดความไวต่อความรู้สึกและทำให้เกิดอาการคันได้ด้วย
-
ความเครียด
แม้จะพบไม่บ่อยแต่ก็ส่งผลให้เกิดอาการคันหรือระคายเคืองบริเวณช่องคลอดได้ เนื่องจากความเครียดจะทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เมื่อร่างกายอ่อนแอก็ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย รวมถึงเกิดอาการคันได้ง่ายกว่าการมีร่างกายที่แข็งแรง
-
สุขอนามัยที่ไม่ดี
การปล่อยปละละเลยไม่ดูแลความสะอาด หรือสุขอนามัยบริเวณจุดซ่อนเร้นที่ไม่ดีพอ เช่น ไม่ล้างน้องสาวเป็นประจำ หรือล้างไม่สะอาด รวมถึงการไม่เปลี่ยนผ้าอนามัยเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ก็มีส่วนทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคส่งผลให้เกิดอาการคันน้องสาวได้
คันน้องสาวหายเองได้ไหม
อาการคันน้องสาวบางกรณีสามารถรักษาได้เองหรือปล่อยให้หายเองได้ เช่น การระคายเคืองจากการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลจุดซ่อนเร้นบางยี่ห้อ แบบนี้ถ้าหยุดใช้อาการก็จะดีขึ้นจนหายไปในที่สุด รวมไปถึงในกรณีมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอันเนื่องมาจากการมีรอบเดือน การใช้ยาคุมกำเนิด หรืออยู่ระหว่างตั้งครรภ์ หากผ่านพ้นสภาวะดังกล่าวไปอาการคันโดยปกติแล้วก็จะหายไปด้วยเช่นกัน
คันน้องสาวภายนอกกับภายในต่างกันอย่างไร
จากตำแหน่งที่เกิดอาการคัน ทำให้ลักษณะอาการคันน้องสาวภายนอกกับภายในแตกต่างกันดังนี้
- อาการคันน้องสาวภายนอก มักมีลักษณะเป็นผื่นแดง ระคายเคือง ผิวหนังแห้ง ลอก หรืออาจมีอาการบวมและมีเลือดออก
- อาการคันน้องสาวจากภายใน มักมีอาการคันยุบยิบภายในช่องคลอด ซึ่งมักมาพร้อม ๆ กับความรู้สึกปวดแสบ อาจมีตกขาวผิดปกติ ปัสสาวะแสบขัด และอาการอื่น ๆ
วิธีป้องกันอาการคันน้องสาว
การป้องกันอาการคันน้องสาวไม่เพียงแค่ช่วยลดความรำคาญ แต่ยังช่วยดูแลสุขภาพจุดซ่อนเร้นให้สะอาด ปลอดภัย และห่างไกลจากโรคต่าง ๆ ที่อาจตามมา การดูแลที่ถูกต้องและการปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมจะช่วยให้คุณมั่นใจและใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสบายใจ โดยสามารถทำตามคำแนะนำง่าย ๆ
- เลี่ยงการสวมใส่ชุดชั้นในหรือเสื้อผ้าที่คับจนเกินไป
- หลีกเลี่ยงการเกา เพราะอาจทำให้ผิวหนังอักเสบและเป็นแผลได้
- หมั่นทำความสะอาดน้องสาวเป็นประจำด้วยน้ำสะอาดและสบู่ที่อ่อนโยน
- ควรทำความสะอาดน้องสาวจากด้านหน้าไปหลัง
- เปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 4-5 ชั่วโมง ในช่วงมีประจำเดือน
- หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด
- หากเกิดอาการคัน ควรงดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าอาการคันจะดีขึ้นหรือหายไป
- ใช้ยาปฏิชีวนะเท่าที่จำเป็น
- เลือกใช้วิธีเล็มขนน้องสาว แทนการโกน ถอน หรือแว็กซ์
- สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์
- หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- พบแพทย์เพื่อตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอ
คันน้องสาวรักษาอย่างไร
อาการคันน้องสาวอาจเกิดขึ้นจากหลายเหตุปัจจัย ตัวยาที่เลือกใช้ก็จะแตกต่างกันไปด้วย ต่อไปนี้คือตัวยาที่สามารถใช้รักษาอาการคันในเบื้องต้นได้
- ยาแก้คันภายในช่องคลอด ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย และมีตกขาวร่วมด้วย ได้แก่ ด็อกซีไซคลิน (Doxycycline), เมโทรนิดาโซล (Metronidazole) และ อะซิโธรมัยซิน (Azithromycin)
- ยาแก้คันที่เกิดจากตกขาว อันเป็นผลมาจากเชื้อรา ได้แก่ ยาสอด โคลไตรมาโซล (Clotrimazole vaginal suppo)
- ยาแก้คันภายนอกช่องคลอด อันเกิดจากผื่นการติดเชื้อบางชนิด หรือผื่นผิวหนัง มักจะให้ TA Cream, BV Cream, Clobetasol cream
- การรักษาด้วยฮอร์โมน ใช้กรณีที่อาการคันน้องสาวเกิดจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงทำให้เกิดภาวะช่องคลอดแห้ง มีให้เลือกทั้งแบบยาเม็ด ครีมเอสโตรเจน หรือวงแหวนใส่ในช่องคลอด
- มอยเจอร์ไรเซอร์ ใช้ในกรณีน้องสาวแห้ง ระคายเคือง การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นช่วยบรรเทาอาการคันได้
หมายเหตุ : คนไข้ไม่ควรซื้อยามาใช้เอง เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วอาการมักไม่หายขาดและกลับมาเป็นซ้ำได้อีก ขอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อตรวจวินิจฉัยลักษณะอาการคันและตัวเชื้อโรค หรืออาจต้องมีการตรวจภายในและซักประวัติอย่างละเอียดเพิ่มเติม เพื่อการรักษาเฉพาะบุคคล
คันน้องสาวแบบไหนต้องรีบพบแพทย์
แม้ว่าอาการคันน้องสาวจะสามารถหายได้เองในบางกรณี หรือซื้อยามารักษาได้เองก็ช่วยบรรเทาอาการได้ แต่ก็มีสาเหตุบางประการที่จำเป็นต้องรีบพบแพทย์ในทันที เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งมีดังต่อไปนี้
- มีแผลที่ปากช่องคลอด มีอาการแสบร้อน ปวดบวม
- ปัสสาวะแล้วรู้สึกปวด แสบขัด
- มีตกขาวผิดปกติ ตกขาวอาจมีสีเหลือง สีเขียว มีลักษณะเป็นก้อน มีกลิ่นเหม็น และมีปริมาณมากกว่าปกติ
- มีอาการคันอย่างรุนแรง น้องสาวบวมแดงมาก และมักคันในเวลากลางคืน
- เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์
- คันต่อเนื่องยาวนาน รักษาหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วไม่หาย
คันน้องสาวเป็นสัญญาณของโรคอะไรบ้าง
อาการคันน้องสาวอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ในบางกรณีอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโรคหรือภาวะสุขภาพที่ควรได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วน หากปล่อยไว้อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้ เรามาทำความรู้จักกับโรคต่าง ๆ
- โรคติดเชื้อแคนดิดา (เชื้อราในช่องคลอด)
- โรคช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
- โรคผิวหนังอักเสบ
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เริม หนองในแท้ หนองในเทียม ฯลฯ
- โรคมะเร็งปากช่องคลอด
อาการคันน้องสาว ต้องรีบหาสาเหตุที่แท้จริงให้พบ เพื่อการป้องกันและรักษาอย่างถูกวิธี ไม่ควรปล่อยปละละเลยโดยเฉพาะหากมีอาการคันต่อเนื่องยาวนาน หรือมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ควรรีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อวินิจฉัยและจัดการกับปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมเป็นรายบุคคล เพื่อคืนสุขภาพทางเพศที่ดีให้กลับคืนมาโดยเร็ว