GentlePenile Bleaching ผลัดสีผิวน้องชายอย่างปลอดภัย ไม่ทำร้ายผิว

• เม็ดสีตามธรรมชาติ

บริเวณอวัยวะเพศมักจะมีสีผิวที่เข้มกว่าส่วนอื่นของร่างกาย เนื่องมาจากเม็ดสีเมลานินซึ่งเป็นเม็ดสีที่ควบคุมสีผิวมีความเข้มข้นสูงกว่า ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงของสีผิวตามปกติ

• การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

ในช่วงวัยรุ่นฮอร์โมนเพศที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ปริมาณของเมลานินมากขึ้นตามไปด้วย อาจส่งผลต่อการผลิตเมลานิน ซึ่งทำให้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศมีสีเข้มขึ้นได้เช่นกัน

• การเสียดสี

บริเวณอวัยวะเพศต้องสัมผัสกับการเสียดสีอย่างต่อเนื่องจากเสื้อผ้า การเคลื่อนไหวและกิจกรรมทางเพศ การเสียดสีเหล่านี้จะทำให้ผิวหนังหนาขึ้นและคล้ำขึ้นตามกาลเวลา ซึ่งเป็นกระบวนการที่เรียกว่าภาวะผิวหนังมีสีเข้มขึ้น

• ความชรา

เมื่อคนเราอายุมากขึ้น ผิวหนังก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ รวมถึงอาจมีการสร้างเม็ดสีมากขึ้นในบางส่วนของร่างกาย เช่น อวัยวะเพศ หัวนม เป็นต้น

• ภาวะเม็ดสีเพิ่มขึ้นหลังการอักเสบ

หากผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศเกิดการระคายเคืองหรืออักเสบอันเนื่องมาจากสภาวะต่าง ๆ เช่น การติดเชื้อ การโกนขน หรือปฏิกิริยาแพ้ต่าง ๆ ก็อาจทำให้เกิดความหมองคล้ำขึ้นได้ในระหว่างที่ผิวหนังกำลังฟื้นตัว

• พันธุกรรม

บุคคลบางคนมีผิวคล้ำขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายโดยธรรมชาติ ซึ่งเกิดขึ้นได้เป็นปกติโดยเฉพาะกับผู้ที่มีผิวสีเข้มโดยกำเนิด

• ภาวะทางการแพทย์

ภาวะทางการแพทย์บางอย่าง เช่น โรคผิวหนังอาจทำให้ผิวหนังบริเวณรอยพับและรอยย่นของร่างกาย รวมทั้งบริเวณอวัยวะเพศมีสีเข้มขึ้น ภาวะนี้มักเกี่ยวข้องกับภาวะดื้อต่ออินซูลิน โรคอ้วน หรือความผิดปกติของฮอร์โมน

• ยา

ยาบางชนิด โดยเฉพาะยาที่มีผลต่อฮอร์โมน อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีผิวได้

• การสัมผัสกับความชื้นและความร้อน

บริเวณอวัยวะเพศมักจะอุ่นและชื้น ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง การสัมผัสกับสภาพแวดล้อมเหล่านี้อย่างต่อเนื่องอาจทำให้ผิวหนังคล้ำขึ้นในระยะยาว

• การใช้ผลิตภัณฑ์บางชนิด

ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวบางชนิดอาจมีสารเคมีหรือสารระคายเคืองที่ทำให้ผิวคล้ำขึ้นได้ โดยเฉพาะถ้าสารดังกล่าวทำให้เกิดการระคายเคืองหรืออาการแพ้จนผิวหนังอักเสบเป็นแผล

• เสื้อผ้าที่รัดรูป

การสวมชุดชั้นในหรือเสื้อผ้าที่รัดรูป อาจเพิ่มแรงเสียดทานและจำกัดการไหลเวียนของอากาศ ซึ่งอาจทำให้เกิดสีเข้มขึ้นในบริเวณอวัยวะเพศได้ในระยะยาว

• โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (STI)

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิด เช่น หูดบริเวณอวัยวะเพศหรือเริม สามารถทำให้ผิวหนังมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ผิวคล้ำขึ้นหรือเปลี่ยนสีในขณะที่ผิวหนังกำลังรักษาตัวเอง

• โรคอ้วน

น้ำหนักตัวเกินอาจทำให้เกิดการเสียดสีบริเวณขาหนีบมากขึ้น และเหงื่อออกตลอดเวลาซึ่งอาจส่งผลให้ผิวหนังคล้ำขึ้นได้

• ความไม่สมดุลของฮอร์โมน

นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนโดยทั่วไปแล้ว ความไม่สมดุลที่เฉพาะเจาะจงอันมีสาเหตุมาจากภาวะต่าง ๆ เช่น โรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) ในผู้หญิง หรือการบำบัดด้วยฮอร์โมนในผู้ชาย ก็สามารถทำให้ผิวบริเวณอวัยวะเพศคล้ำขึ้นได้

• โรคเบาหวาน

โรคเบาหวานที่ควบคุมได้ไม่ดี อาจทำให้เกิดภาวะต่าง ๆ เช่น ภาวะผิวหนังหนาเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ (Acanthosis Nigricans) ซึ่งเป็นลักษณะที่ผิวหนังบริเวณรอยพับของร่างกาย รวมทั้งบริเวณอวัยวะเพศมีสีเข้มและหนาขึ้น

• สุขอนามัยที่ไม่ดี

การรักษาสุขอนามัยที่ไม่เหมาะสมบริเวณอวัยวะเพศ อาจทำให้เกิดการสะสมของเหงื่อ แบคทีเรีย และเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ซึ่งมีส่วนทำให้ผิวคล้ำขึ้นได้