น้องสาวมีกลิ่นคาวปลาผิดปกติไหม รักษาได้ด้วยวิธีใด
น้องสาวมีกลิ่นคาวปลา เป็นปัญหาน่าหนักใจสำหรับผู้หญิงทุกคน เพราะนอกจากสร้างความกังวลใจต่อการดำเนินชีวิต ยังอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนรักได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามปัญหาน้องสาวมีกลิ่นคาวสามารถแก้ไขได้ หากทราบสาเหตุที่แท้จริง และเข้ารับการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทาง สำหรับบทความนี้จะมาไขความกระจ่างเกี่ยวกับปัญหาน้องสาวมีกลิ่นคาวเกิดจากสาเหตุใด มีวิธีรักษาแบบธรรมชาติอย่างไรบ้าง มาติดตามกันได้ในบทความนี้ค่ะ
น้องสาวมีกลิ่นคาวปลาผิดปกติหรือไม่
จริง ๆ แล้วกลิ่นของน้องสาว (Vulvovaginal odor) เป็นเรื่องธรรมชาติ โดยลักษณะของกลิ่นอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน อาหาร สุขอนามัย หรือแม้แต่กิจกรรมทางเพศ โดยปกติแล้วกลิ่นมักไม่ก่อให้เกิดความกังวลด้านสุขภาพทางเพศ เว้นแต่จะมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น น้องสาวมีอาการคัน แสบร้อน หรือมีตกขาวผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย หรือการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (STI) ซึ่งจำเป็นต้องพบสูตินรีแพทย์ หรือแพทย์เฉพาะทางด้านสุขภาพทางเพศ เพื่อวินิจฉัยอาการ และระบุสาเหตุที่แน่ชัด เพื่อนำไปสู่การรักษาที่เหมาะสมต่อไป
กลิ่นของน้องสาวมาจากไหน
สำหรับสตรีภายในช่องคลอดจะมีเนื้อเยื่อเมือก (Mucosa) ซึ่งจะทำหน้าที่สร้างสารคัดหลั่งหรือน้ำเมือก เพื่อช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ช่องคลอด โดยสารคัดหลั่งนี้มีไว้เพื่อกำจัดเชื้อโรคและสิ่งสกปรกภายในช่องคลอด ซึ่งจะไหลออกมาในรูปของตกขาว ซึ่งปกติมักมีกลิ่นคาวเล็กน้อย หรืออ่อน ๆ โดยกลิ่นอาจแรงขึ้นในช่วงใกล้มีประจำเดือน
น้องสาวมีกลิ่นคาวปลาเกิดจากสาเหตุใด
กลิ่นคาวจากช่องคลอดเกิดได้จากหลายสาเหตุ หากมีอาการรุนแรงหรือต่อเนื่องยาวนานควรปรึกษาแพทย์ผู้เฉพาะทางด้านความงามจุดซ่อนเร้นและสุขภาพเพศ เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาที่เหมาะสม ส่วนสาเหตุที่เป็นไปได้บางประการที่ทำให้น้องสาวมีกลิ่นคาวมีดังนี้
ภาวะแบคทีเรียในช่องคลอด (Bacterial vaginosis) : คือการติดเชื้อในช่องคลอดทั่วไปที่เกิดจากความไม่สมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอด ทำให้เกิดกลิ่นคาวพร้อมกับตกขาว ซึ่งสีของตกขาวอาจเป็นสีขาวหรือสีเทา
โรคพยาธิในช่องคลอด (Trichomoniasis) : คือการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (STI) ที่เกิดจากปรสิตที่เรียกว่า Trichomonas vaginalis อาจทำให้เกิดกลิ่นคาว ร่วมกับตกขาวสีเหลืองเขียว ร่วมกับอาการคันที่อวัยวะเพศ
สุขอนามัยที่ไม่ดี : สุขอนามัยที่ไม่ดีบริเวณอวัยวะเพศ หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีฤทธิ์รุนแรง อาจไปรบกวนสมดุลตามธรรมชาติของแบคทีเรียในช่องคลอด ทำให้เกิดกลิ่นได้
โภชนาการ : อาหารบางชนิด เช่น กระเทียม หัวหอม อาหารหมักดอก ปลาร้า ปลาเค็ม กระเทียม หัวหอม อาหารทะเลและเครื่องเทศ อาจส่งผลต่อกลิ่นตัว รวมถึงกลิ่นช่องคลอดด้วย
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน : ความผันผวนของระดับฮอร์โมน เช่น ในช่วงมีประจำเดือน ตั้งครรภ์ หรือวัยหมดประจำเดือน บางครั้งอาจทำให้กลิ่นน้องสาวเปลี่ยนไป
กิจกรรมทางเพศ : การมีเพศสัมพันธ์สามารถเปลี่ยนกลิ่นช่องคลอดได้ชั่วคราว เนื่องจากมีการผสมของของเหลวและน้ำอสุจิ
มะเร็งปากมดลูก : เกิดจากการติดเชื้อ (Human Papilloma Virus : (HPV)) เป็นเชื้อไวรัสที่มักติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ มักมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ มีเลือดออกทั้งที่ไม่ใช่รอบเดือน ตกขาวมีกลิ่นเหม็นคาว และเป็นสีเขียว
น้องสาวมีกลิ่นคาว มักเกิดกับผู้หญิงวัยใด
ช่องคลอดมีกลิ่นคาวปลาเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกวัย ไม่ได้ผูกติดอยู่กับผู้หญิงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ แต่ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง อาทิ โภชนาการ สุขอนามัยที่ไม่ดี การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน กิจกรรมทางเพศ การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงภาวะแบคทีเรียในช่องคอดที่ไม่สมดุล สิ่งที่ควรทราบคือ หากช่องคลอดมีกลิ่นเปลี่ยนไปกะทันหัน หรือมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น คันช่องคลอด แสบร้อนช่องคลอด หรือมีตกขาวผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาที่ซ่อนอยู่ ซึ่งต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดโดยสูตินรีแพทย์
กลิ่นคาวน้องสาว ร่วมกับอาการแบบไหนที่ควรพบแพทย์
- มีไข้ หนาวสั่น
- มีอาการปวดท้องน้อยรุนแรง
- รักษาด้วยตัวเองแล้วอาการไม่ดีขึ้น
- ผู้ที่เข้าข่ายต้องสงสัยว่าป่วยเป็นมะเร็งปากช่องคลอด
- ผู้ที่เข้าข่ายต้องสงสัยว่าติดเชื้อเอดส์ ร่วมด้วย
น้องสาวมีกลิ่นคาวปลา วิธีแก้ธรรมชาติ
รักษาสุขอนามัยจุดซ่อนเร้นที่ดี : ล้างบริเวณอวัยวะเพศภายนอกด้วยสบู่อ่อน หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ที่มีฤทธิ์รุนแรง หรือการสวนล้าง เนื่องจากอาจไปรบกวนสมดุลค่า pH ตามธรรมชาติของช่องคลอดได้ และควรเช็ดทำความสะอาดน้องสาวจากด้านหน้าไปด้านหลัง เพื่อป้องกันเชื้อโรคจากทวารหนักเข้าไปเจริญเติบโตในช่องคลอด
สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี : เลือกชุดชั้นในผ้าฝ้ายและหลีกเลี่ยงเสื้อผ้ารัดรูปที่กักเก็บความชื้นและความร้อนได้ดี ซึ่งจะไปส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดี
รักษาร่างกายให้ชุ่มชื้น : การดื่มน้ำปริมาณมากเพียงพอในแต่ละวัน ช่วยรักษาการทำงานของร่างกายโดยรวม และช่วยให้สภาพแวดล้อมในช่องคลอดมีความสมดุล
โภชนาการที่สมดุล : การรับประทานอาหารที่อุดมด้วยผักผลไม้ โปรตีนไร้ไขมันและธัญพืชไม่ขัดสี สามารถช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น รวมถึงสุขภาพช่องคลอดด้วย
รับประทานโพรไปโอติกส์ : อาหารที่มีโพรไปโอติกส์ หรือจุลินทรีย์ ที่มีอยู่ในโยเกิร์ต ช่วยปรับสมดุลในช่องคลอด ช่วยลดอาการติดเชื้อรา ลดอาการตกขาวได้
หลีกเลี่ยงสารระคายเคือง : ผลิตภัณฑ์บางชนิด เช่น ผ้าอนามัยแบบสอด กระดาษชำระ ผงซักฟอกหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มบางชนิด อาจทำให้ช่องคลอดระคายเคืองและทำให้เกิดกลิ่นได้
มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย : ใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (STI) ซึ่งอาจทำให้กลิ่นช่องคลอดเปลี่ยนไป
ตรวจสุขภาพเป็นประจำ : ควรตรวจสุขภาพทางเพศทุก ๆ 6 เดือนหรือ 1 ปี
เลี่ยงรับประทานอาหารหมักดอง : อาหารหมักดอก เช่น ปูดอง ปลาร้า ปลาเค็ม เหล่านี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการตกขาวมากกว่าปกติ ทำให้น้องสาวอับชื้น ตามมาซึ่งกลิ่นที่รุนแรง
สัญญาณที่บอกว่าช่องคลอดมีสุขภาพดี
-
ความสมดุลของค่า pH ปกติ
น้องสาวที่มีสุขภาพดีจะมีระดับค่า pH เป็นกรดเล็กน้อย (ประมาณ 3.8 ถึง 4.5) ซึ่งช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและยีสต์ที่เป็นอันตรายมากเกินไป
-
มีตกขาวใสหรือเป็นสีขาว
ตกขาวเป็นส่วนหนึ่งของสุขภาพช่องคลอดตามปกติ และช่วยทำความสะอาดช่องคลอดและรักษาสมดุลค่า pH โดยส่วนมากตกขาวจะมีสีใสหรือสีขาว โดยปริมาณอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน บางคนมีเพียงเล็กน้อยในขณะที่บางคนมีมากขึ้นในช่วงตกไข่
-
มีกลิ่นอ่อน ๆ
กลิ่นน้องสาวเป็นเรื่องปกติ โดยลักษณะของกลิ่นจะเบาบาง อ่อน ๆ ไม่ควรมีกลิ่นเหม็นฉุน แต่เป็นกลิ่นที่คุ้นเคยของผู้หญิงแต่ละคน ซึ่งอาจแตกต่างกันเล็กน้อย
-
มีความชุ่มชื้นและยืดหยุ่น
ช่องคลอดที่สุขภาพดีจะมีความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงที่มีอารมณ์ทางเพศ ช่วยลดการเสียดสีและความรู้สึกไม่สบายระหว่างมีกิจกรรมทางเพศ
-
ไม่มีความเจ็บปวดหรือไม่สบาย
ช่องคลอดที่แข็งแรงสุขภาพดี ไม่ควรมีอาการเจ็บปวดหรือไม่สบายตัวในระหว่างทำกิจกรรมในแต่ละวัน อาทิ การถ่ายปัสสาวะ การมีเพศสัมพันธ์ หรือการออกกำลังกาย
-
เนื้อเยื่อที่ดีต่อสุขภาพ
เนื้อเยื่อในช่องคลอดควรมีสีชมพูและมีสุขภาพดีโดยไม่มีอาการแดง บวม หรือริ้วรอยของโรค
-
รอบประจำเดือนปกติ
สำหรับบุคคลที่มีประจำเดือนสม่ำเสมอ สามารถบ่งชี้ถึงสุขภาพการเจริญพันธุ์ที่ดีโดยรวม การเปลี่ยนแปลงของรูปแบบประจำเดือนหรืออาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรงอาจต้องได้รับการตรวจสอบเพิ่มเติม
-
ไม่มีสัญญาณของการติดเชื้อ
อาการต่าง ๆ เช่น คัน แสบร้อน แดง บวม มีของเหลวผิดปกติ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีกลิ่นรุนแรงหรือสีผิดปกติ) หรือความเจ็บปวดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ อาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อในช่องคลอดมีกลิ่นคาว หรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่อาจต้องได้รับการดูแลจากแพทย์
สรุป
การรักษาสุขภาพโดยรวมที่ดี การฝึกมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย การดื่มน้ำให้เพียงพอ และการหลีกเลี่ยงสารเคมีที่รุนแรงหรือสารระคายเคืองบริเวณอวัยวะเพศ หรือน้องสาวมีกลิ่นคาวปลา ล้วนส่งผลต่อสุขภาพช่องคลอดได้ หากน้องสาวของคุณมีกลิ่นเหม็นคาวกะทันหัน กลิ่นฉุนรุนแรง มีตกขาวผิดปกติ มีอาการคัน และมีอาการต่อเนื่องยาวนาน รักษาเองไม่หายเสียที จำเป็นต้องปรึกษาสูตินรีแพทย์ฯ ทั้งนี้เพื่อวินิจฉัยอาการระบุสาเหตุของปัญหาน้องสาวมีกลิ่น รวมถึงวิธีการรักษาที่เหมาะสมต่อไป GENITIQUE CLINIC ยินดีเป็นพื้นที่ปลอดภัย และให้คำแนะนำคนไข้ที่มีปัญหาสุขภาพทางเพศให้กับหญิงและชายทุกท่าน สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อพูดคุยและปรึกษากับทีมแพทย์ได้โดยตรงที่หมายเลขโทรศัพท์ 062-924-4966 หรือ Line: @genitiqueclinic เรายินดีให้บริการอย่างใกล้ชิดทุกเคสค่ะ