ปวดบริเวณหัวหน่าวผู้หญิงอันตรายไหม

ปวดบริเวณหัวหน่าวผู้หญิงอันตรายไหม เป็นสัญญาณของโรคอะไรได้บ้าง

อาการปวดบริเวณหัวหน่าวผู้หญิงเป็นปัญหาที่พบบ่อยๆ โดยแสดงออกมาในรูปแบบของความรู้สึกไม่สบายหรือปวดแปลบ ๆ บริเวณท้องส่วนล่างหรืออุ้งเชิงกรานเรื่อยลงไปถึงบริเวณหัวหน่าว แม้ว่าอาการปวดประเภทนี้ดูเหมือนจะน่าตกใจ แต่สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าอาการดังกล่าวไม่ได้บ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงเสมอไป ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจสาเหตุต่าง ๆ ของอาการปวดบริเวณหัวหน่าวในผู้หญิง ตั้งแต่ปัญหาทั่วไปที่ไม่ร้ายแรงไปจนถึงอาการเจ็บปวดรุนแรงที่จำเป็นต้องพบแพทย์ การทำความเข้าใจสาเหตุที่อาจเกิดขึ้นและอาการข้างเคียงที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้ผู้หญิงสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับสุขภาพของตนเองได้อย่างถูกต้อง เพื่อหาวิธีดูแลทางการแพทย์ที่เหมาะสมต่อไป

อาการปวดบริเวณหัวหน่าวผู้หญิง เกิดจากสาเหตุใด

อาการปวดบริเวณหัวหน่าวในผู้หญิง เป็นได้ตั้งแต่โรคทั่วไป เช่น ปวดประจำเดือน อาหารเป็นพิษ ท้องผูก หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ จนถึงภาวะฉุกเฉินที่จำเป็นต้องพบแพทย์โดยด่วน เช่น เลือดออกในช่องท้อง เยื่อบุช่องท้องอักเสบ ไส้ติ่งอักเสบ ฯลฯ อย่างไรก็ตามหากมีอาการปวดท้องประจำเดือนมาก ปวดแบบฉับพลัน ปวดบ่อยแบบไม่ทราบสาเหตุ และเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงขั้นไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคทางนรีเวชได้เช่นกัน

ปวดบริเวณหัวหน่าวผู้หญิง อาการเป็นแบบไหน

สำหรับอาการปวดที่หัวหน่าวอาจเกิดขึ้นหลายลักษณะ เช่น ปวดเสียด ปวดจี๊ด ๆ ปวดเกร็ง ปวดแปล๊บ ๆ ปวดตื้อ ๆ ซึ่งอาจเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน ทานยาแก้ปวดก็ไม่หาย หรือปวดเรื้อรังยาวนาน บางครั้งนานกว่า 6 เดือน มีตั้งแต่ระดับความรุนแรงน้อย ปานกลาง และรุนแรงมาก และอาจปวดลามไปที่บริเวณท้องน้อย อุ้งเชิงกราน หลัง เอว สะโพก ขาหนีบ และอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยก็ได้เช่นกัน

ปวดบริเวณหัวหน่าวผู้หญิง เป็นสัญญาณของโรคใดบ้าง

ปวดบริเวณหัวหน่าวผู้หญิง เป็นสัญญาณของโรคใดบ้าง

อาการปวดบริเวณหัวหน่าวในผู้หญิง เกิดจากความผิดปกติของระบบภายในร่างกาย 4 ระบบ ได้แก่ ระบบย่อยอาหาร ระบบทางเดินปัสสาวะ ระบบกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และระบบสืบพันธ์ ซึ่งพอจำแนกโรคที่เป็นได้ดังนี้

  • โรคในระบบย่อยอาหาร

อาหารเป็นพิษ ติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ลำไส้อักเสบ ลำไส้แปรปรวน ลำไส้อุดตัน ไส้ติ่งอักเสบ โรคบิด ฯลฯ

  • โรคในระบบทางเดินปัสสาวะ

กรวยไตอักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ การติดเชื้อในไต นิ่วในไต ติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ฯลฯ

  • โรคในระบบกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน

กล้ามเนื้อฉีกขาด กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอักเสบ ข้อต่อกระดูกอุ้งเชิงกรานอักเสบ กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อแบบเรื้อรัง กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานทำงานผิดปกติ โรคไฟโบรมัยอัลเจีย ฯลฯ

  • โรคในระบบสืบพันธ์

โรคทางนรีเวชที่พบบ่อยและเกี่ยวข้องกับอาการปวดเนินหัวหน่าวในผู้หญิงได้แก่ มะเร็งปากมดลูก มดลูกอักเสบ ปีกมดลูกอักเสบ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ช็อกโกแลตซีสต์ เนื้องอกที่ปีกมดลูก มะเร็งรังไข่ อุ้งเชิงกรานอักเสบ เส้นเลือดโป่งพองในอุ้งเชิงกราน ฯลฯ

ปวดบริเวณหัวหน่าวผู้หญิง มีวิธีวินิจฉัยอย่างไร

การตรวจเช็กอาการปวดบริเวณหัวหน่าวผู้หญิง มีหลายวิธีขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ปวด ประวัติการเจ็บป่วย ระยะเวลาที่ปวด รวมถึงอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้แพทย์จะทำการตรวจหาสาเหตุความผิดปกติจากการตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือด รวมถึงอาจจำเป็นต้องตรวจเฉพาะทางอื่น ๆ ดังนี้

  1. การตรวจภายใน และอัลตราซาวด์ช่องคลอด

วิธีนี้เป็นการตรวจเพื่อหาความผิดปกติของอวัยวะอุ้งเชิงกรานด้วยคลื่นเสียง ultrasound เพื่อให้เห็นอวัยวะภายใน เช่น มดลูก ปากมดลูก ท่อนำไข่ รังไข่ เป็นการตรวจหาเนื้องอก ซีสต์ ถุงน้ำ หรือมะเร็ง รวมทั้งความผิดปกติอื่น ๆ เช่น ภาวะเลือดออกทางช่องคลอด ตกขาว รวมถึงอาจกำลังตั้งครรภ์เป็นต้น

  1. การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่และทวารหนัก

วิธีนี้เป็นการตรวจหาความผิดปกติในลำไส้ใหญ่และทวารหนัก โดยการใช้เทคนิคการสอดท่อที่บริเวณส่วนปลายท่อจะมีกล้องติดเลนส์ เพื่อค้นหาติ่งเนื้อและก้อนเนื้อที่อาจพัฒนากลายเป็นเนื้อร้าย (มะเร็ง) หากตรวจพบแพทย์สามารถกำจัดทิ้งได้ทันที ถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพเนื่องจากเป็นทั้งการตรวจวินิจฉัยและรักษาในคราวเดียวกัน

  1. การตรวจอัลตราซาวด์ท้องส่วนล่าง

เป็นการตรวจหาความผิดปกติด้วยคลื่นเสียง ultrasound ภายในอวัยวะบริเวณหน้าท้องส่วนล่าง อาทิ มดลูก กระเพาะปัสสาวะ ท่อไต รังไข่ ปีกมดลูก ไส้ติ่ง และลำไส้ใหญ่ เพื่อแปลงเป็นสัญญาณภาพ ช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมได้

 ทั้งนี้หากเห็นสมควรแพทย์อาจพิจารณาเทคนิคเฉพาะทางอย่างเช่น การทำ MRI การตรวจ PET/CT เพื่อช่วยวินิจฉัยอาการให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ปวดบริเวณหัวหน่าว มีวิธีรักษาอย่างไร

ปวดบริเวณหัวหน่าว มีวิธีรักษาอย่างไร

เมื่อทราบผลการวินิจฉัยอันเป็นต้นเหตุของอาการปวดบริเวณหัวหน่าวของผู้หญิง การรักษาอาจพิจารณาร่วมกับแพทย์เฉพาะทาง เช่น สูตินรีแพทย์ แพทย์ระบบทางเดินอาหาร แพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ หรือแพทย์กระดูกและกล้ามเนื้อ รวมถึงนักกายภาพบำบัด ซึ่งสามารถแบ่งวิธีรักษาตามอาการได้ 3 วิธีดังนี้

การรักษาด้วยการให้ยา

การรักษาด้วยการใช้ยา แบ่งเป็นยาชนิดรับประทานหรือยาฉีด ได้แก่ ยาแก้ปวดในกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ หรือ NSAIDS เช่น Naproxen, Ibuprofen กลุ่มยาฮอร์โมนเพศหญิง เช่น Progesterone (โปรเจสเตอโรน) หรือกลุ่มยาฮอร์โมน Androgen (แอนโดรเจน) สำหรับคนไข้ที่มีซีสต์รังไข่ หรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือปวดประจำเดือนมาก ๆ ส่วนคนไข้ที่ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ หรือมีอาการอุ้งเชิงกรานอักเสบ แพทย์อาจพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะเพื่อทำการรักษาอาการดังกล่าว

รักษาด้วยการผ่าตัด

หากสาเหตุของอาการปวดหัวหน่าวเกิดจากซีสต์รังไข่ เนื้องอกมดลูก อุ้งเชิงกรานหย่อน หรือภาวะเหยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ แพทย์จะใช้วิธีผ่าตัดซึ่งทำได้ 2 วิธีคือ

  • การผ่าตัดส่องกล้อง (Endoscopic surgery) ข้อดีคือเจ็บน้อย แผลเล็ก ลดการเสียเลือด ฟื้นตัวเร็ว และลดอาการปวดหลังการผ่าตัด
  • การผ่าตัดเปิดหน้าท้อง (Open Abdominal Surgery) มักใช้ในคนไข้ที่มีก้อนเนื้องอกขนาดใหญ่ ซึ่งไปกดทับหรือเบียดอวัยวะข้างเคียง

การทำกายภาพบำบัด

เหมาะกับอาการปวดที่มีสาเหตุมาจากกล้ามเนื้อและกระดูกผิดปกติ นอกจากช่วยฟื้นฟูอาการปวดแล้วยังเป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อโดยเฉพาะกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ที่ทำหน้าที่รองรับอวัยวะภายใน เช่น มดลูก กระเพาะปัสสาวะ ปีกมดลูก กระดูกหัวหน่าว หรือลำไส้

ปวดบริเวณหัวหน่าวของผู้หญิง มีวิธีป้องกันอย่างไร

  • หมั่นตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อค้นหาความเสี่ยงหรือความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น
  • รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เพื่อป้องกันอาการท้องผูก หรือโรคถุงผนังลำไส้อักเสบ
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อและข้อต่อ
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องเดินหรือยืน หรือการยกของหนักเป็นเวลานาน ๆ

ปวดบริเวณหัวหน่าวในผู้หญิง แบบไหนควรรีบพบแพทย์

ปวดบริเวณหัวหน่าวของผู้หญิง แบบไหนควรรีบพบแพทย์

  • ปวดบ่อย หรือปวดเรื้อรังไม่หาย
  • ปวดรุนแรงจนไม่สามารถทำกิจกรรมใด ๆ ได้
  • ทานยาแก้ปวดแล้วอาการไม่ดีขึ้น
  • อาการปวดที่มาพร้อมอาการถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะปนเลือด
  • อาการปวดพร้อมมีไข้ ปัสสาวะแสบขัด คลื่นไส้อาเจียน
  • ปวดอย่างมากระหว่างการตั้งครรภ์

อาการปวดบริเวณหัวหน่าว ในผู้หญิงระหว่างตั้งครรภ์เป็นเรื่องปกติหรือไม่

อาการปวดบริเวณหัวหน่าวระหว่างตั้งครรภ์ถือเป็นเรื่องปกติ แม้ว่าจะทำให้รู้สึกไม่สบายตัว แต่โดยทั่วไปแล้วอาการปวดไม่ใช่เรื่องน่ากังวล และมักมาจากมดลูกที่ขยายตัว หรือการเคลื่อนไหวของอุ้งเชิงกรานในระหว่างตั้งครรภ์

ความเครียดทำให้ปวดบริเวณหัวหน่าวได้หรือไม่

อาการปวดบริเวณหัวหน่าวในผู้หญิงอาจเกิดจากความวิตกกังวลส่งผลต่อความตึงเครียดของกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นทั่วร่างกาย รวมทั้งกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ทำให้รู้สึกไม่สบายและเจ็บปวด รวมถึงความเครียดจะไปกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนความเครียด เช่น คอร์ติซอลและอะดรีนาลีน ทำให้เกิดอาการปวดและไม่สบายตัวมากขึ้นระหว่างมีประจำเดือน นอกจากนี้ความเครียดเรื้อรังยังส่งผลทำให้การอักเสบที่อุ้งเชิงกรานหรือกระเพาะปัสสาวะ มีระดับความรุนแรงและไวต่อความรู้สึกมากขึ้นได้ด้วย

สรุป

อาการปวดบริเวณหัวหน่าวผู้หญิง สามารถบอกถึงปัญหาที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกายได้หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นระบบย่อยอาหาร ระบบกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ระบบทางเดินปัสสาวะ รวมถึงระบบสืบพันธ์ หากรู้จักเรียนรู้ หมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกายเป็นประจำ ก็สามารถช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการที่รุนแรง หรือรักษาภาวะดังกล่าวได้เสียแต่เนิ่น ๆ แต่หากมีอาการปวดรุนแรง เป็นต่อเนื่องยาวนาน ทานยาแก้ปวดแล้วไม่หายเสียที และมีอาการผิดปกติร่วมด้วย เช่น มีไข้ ถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะปนเลือด คลื่นไส้อาเจียน ควรรีบพบสูตินรีแพทย์เฉพาะทางในทันที ท้ายที่สุดนี้สำหรับท่านใดที่ไม่แน่ใจว่าตนเองป่วยเป็นโรคทางนรีเวชหรือไม่ GENITIQUE CLINIC ยินดีเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับทุกท่าน สามารถพูดคุยและปรึกษากับสูตินรีแพทย์เฉพาะทาง ดูแลด้านความงามจุดซ่อนเร้นและสุขภาพเพศได้โดยตรงที่หมายเลขโทรศัพท์ 062-924-4966 6 หรือ Line: @Genitiqueclinic เรายินดีให้บริการอย่างใกล้ชิดทุกเคสค่ะ

บทความน่าสนใจ

Picture of แพทย์หญิง ธนวรรณ ศิริสุข

แพทย์หญิง ธนวรรณ ศิริสุข

Global Speaker and Trainer in Aesthetic Gynecology แพทย์ผู้สอนงานประชุมวิชาการ ทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก และ American Board of Cosmetic Gynecology, U.S.A. (คนแรกของไทย)

บทความใหม่

ค้นหาข้อมูล

บริการของเรา