Genitique clinic

ปัสสาวะเป็นเลือด ในผู้หญิงเกิดจากอะไรป้องกันได้อย่างไร

สาเหตุ อาการ ปัสสาวะเป็นเลือดในผู้หญิง เป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง แม้ว่าบางครั้งอาการนี้อาจไม่เป็นอันตราย แต่ก็อาจบ่งบอกถึงอาการป่วยร้ายแรงอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาเช่นกัน บทความนี้ GENITIQUE CLINIC มีจุดมุ่งหมาย เพื่อสำรวจสาเหตุต่าง ๆ ที่เป็นไปได้ของภาวะเลือดออกปนมากับปัสสาวะที่เกิดขึ้นกับผู้หญิง ตั้งแต่การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะไปจนถึงปัญหาที่ซับซ้อนกว่า เช่น นิ่วในไตหรือมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้เราจะพูดถึงภาวะเลือดออกในปัสสาวะประเภทต่าง ๆ อาการที่เกี่ยวข้อง และอาการแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์ การทำความเข้าใจถึงสาเหตุและการรับรู้ถึงอาการที่เกิดขึ้น จะช่วยให้ผู้หญิงสามารถดำเนินการเชิงรุกระบุทางเลือกในการรักษาที่เหมาะสม เพื่อปกป้องสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวมของตนเองได้

สารบัญ

ปัสสาวะเป็นเลือด หมายถึงอะไร ?

ภาวะปัสสาวะเป็นเลือด หมายถึง ภาวะที่มีเม็ดเลือดแดงปะปนอยู่ในปัสสาวะ ในทางการแพทย์สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

  1. ภาวะเลือดออกในปัสสาวะที่มองเห็นได้ : ภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อมองเห็นเลือดได้ด้วยตาเปล่า ปัสสาวะอาจมีสีชมพู แดง หรือสีโคล่า เนื่องจากมีเลือดปนอยู่ แม้ว่าจะมีเลือดเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ปัสสาวะเปลี่ยนเป็นสีแดงได้ ภาวะนี้มักจะไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามหากเลือดแข็งตัวอาจทำให้เกิดอาการเจ็บได้
  2. ภาวะเลือดออกในปัสสาวะแบบจุลทรรศน์ : ภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อมองไม่เห็นเลือดและสามารถตรวจพบได้โดยใช้กล้องจุลทรรศน์เท่านั้น โดยปกติจะพบภาวะนี้ในระหว่างการทดสอบปัสสาวะตามปกติ

อาการปัสสาวะเป็นเลือดในผู้หญิง

อาการหลักของภาวะเลือดออกในปัสสาวะคือมีเลือดในปัสสาวะ แต่ภาวะนี้อาจมาพร้อมกับอาการอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งอาจรวมถึงอาการดังต่อไปนี้

  • ปัสสาวะลำบาก
  • ปัสสาวะบ่อย
  • อาการปวดท้องหรือปวดหลัง
  • อาการไข้และหนาวสั่น (กรณีติดเชื้อ)
  • อาการคลื่นไส้และอาเจียน (โดยเฉพาะเมื่อมีนิ่วในไต)

ปัสสาวะเป็นเลือด แบบไหนควรต้องพบแพทย์

ขอแนะนำว่าไปพบแพทย์ทุกครั้งที่พบอาการปัสสาวะมีลักษณะเหมือนมีเลือดปนอยู่ แม้ว่าจะเกิดขึ้นไม่บ่อยหรือไม่แน่ใจว่าใช่เลือดหรือไม่ คุณควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งจะสามารถป้องกันภาวะแทรกซ้อนและแก้ไขภาวะที่อาจร้ายแรงได้ทันท่วงที

10 สาเหตุ อาการ ปัสสาวะเป็นเลือด ผู้หญิงมีอะไรบ้าง

สำหรับสาเหตุเกิดจากอะไร อาการ ปัสสาวะเป็นเลือดในผู้หญิงมีมากมาย ตั้งแต่สาเหตุธรรมดาไปจนถึงสาเหตุร้ายแรง ต่อไปนี้คือสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด

1. การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTIs)

การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ถือเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดประการหนึ่ง การมีเลือดออกปนมาในปัสสาวะเกิดจากแบคทีเรียที่เข้าไปในทางเดินปัสสาวะและทำให้เกิดการอักเสบ ส่งผลให้ปัสสาวะมีเลือดปน ผู้ป่วยมักมีอาการปวดปัสสาวะมาก แสบขณะปัสสาวะ และปัสสาวะขุ่นหรือมีกลิ่นเหม็น

2. นิ่วในไต

ภาวะมีนิ่วในไตหมายถึงมีตะกอนของแร่ธาตุและเกลือที่แข็งตัว ซึ่งก่อตัวในไต นิ่วเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการปวดรุนแรงและอาจนำไปสู่ภาวะเลือดออกปนมาในปัสสาวะได้ เมื่อก้อนนิ่วไปทำให้เกิดการระคายเคืองหรือทำให้ทางเดินปัสสาวะเป็นรอยถลอกจนเกิดแผลขณะเคลื่อนผ่าน

3. การติดเชื้อกระเพาะปัสสาวะหรือไต

การติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ (โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ) หรือไต (โรคไตอักเสบ) อาจทำให้ปัสสาวะเป็นเลือด การติดเชื้อเหล่านี้อาจมาพร้อมกับอาการไข้ ปวดหลังหรือปวดท้อง และปัสสาวะบ่อย

4. การออกกำลังกายอย่างหนัก

การออกกำลังกายหนักเกินไป โดยเฉพาะกีฬาหรือกิจกรรมที่มีแรงกระแทกสูง อาจทำให้เกิดภาวะปัสสาวะเป็นเลือดได้ชั่วคราว อาการนี้มักไม่รุนแรงและหายได้เอง อย่างไรก็ตามหากยังมีภาวะเลือดออกในปัสสาวะต่อเนื่องหลังหยุดการออกกำลังกายไปสักระยะ ควรได้รับการประเมินจากแพทย์เฉพาะทางอีกครั้ง

5. ยา

ยาบางชนิด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด แอสไพริน และยาปฏิชีวนะบางชนิด อาจทำให้เกิดภาวะเลือดออกในปัสสาวะซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่ตามมาได้

6. โรคไต

โรคไตต่าง ๆ เช่น โรคไตอักเสบหรือโรคไตซีสต์หลายใบ (ภาวะที่ซีสต์เติบโตในร่างกายจำนวนมากโดยส่วนใหญ่มักอยู่ในไต) อาจทำให้ปัสสาวะเป็นเลือดได้ โรคเหล่านี้มักต้องได้รับการดูแลทางการแพทย์ที่เหมาะสมตามอาการ

7. โรคมะเร็ง

บางครั้งภาวะเลือดออกในปัสสาวะ อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งในระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งไต หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก (ผู้ชาย) ซึ่งจำเป็นต้องเข้ารับการวินิจฉัยอาการนี้
โดยละเอียดจากแพทย์เฉพาะทาง

8. ความผิดปกติทางพันธุกรรม

ภาวะทางพันธุกรรมบางอย่าง เช่น โรคอัลพอร์ต (โรคที่ทำลายหลอดเลือดเล็ก ๆ ในไต) และโรคเม็ดเลือดรูปเคียว อาจทำให้มีเลือดในปัสสาวะได้

9. เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

ในบางกรณี เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ซึ่งเป็นภาวะที่เนื้อเยื่อคล้ายกับเยื่อบุมดลูกเจริญเติบโตภายนอกมดลูก อาจส่งผลต่อทางเดินปัสสาวะและทำให้เกิดเลือดในปัสสาวะได้เช่นกัน

10. ประจำเดือน

ผู้หญิงที่อยู่ระหว่างช่วงมีรอบเดือน มีความเป็นไปได้ที่เลือดจากประจำเดือนอาจปะปนมากับปัสสาวะ ทำให้ดูเหมือนมีเลือดในปัสสาวะได้เช่นกัน

การวินิจฉัยอาการปัสสาวะเป็นเลือด

เพื่อวินิจฉัยสาเหตุของภาวะเลือดออกในปัสสาวะที่แท้จริง แพทย์อาจทำการทดสอบดังต่อไปนี้

  • การตรวจปัสสาวะ : เพื่อตรวจหาการมีอยู่ของเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และสารอื่น ๆ ในปัสสาวะ
  • การเพาะเชื้อในปัสสาวะ : เพื่อตรวจหาการติดเชื้อแบคทีเรีย
  • การตรวจเลือด : เพื่อประเมินการทำงานของไตและค้นหาสัญญาณของโรคพื้นฐาน
  • การทดสอบทางภาพ : เช่น อัลตราซาวนด์ ซีทีสแกน หรือเอ็มอาร์ไอ เพื่อสร้างภาพทางเดินปัสสาวะ
  • การส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะ : เป็นขั้นตอนที่ใส่ท่อเล็ก ๆ ซึ่งมีกล้องเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะเพื่อดูความผิดปกติ

ปัสสาวะเป็นเลือดทางเลือกในการรักษามีอะไรบ้าง

การรักษาอาการเลือดออกในปัสสาวะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง การรักษาแพทย์จะเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับอาการและสุขภาพโดยรวมของคนไข้ดังนี้

  • ยาปฏิชีวนะ : สำหรับการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะหรือการติดเชื้อแบคทีเรียอื่น ๆ
  • เพิ่มการบริโภคของเหลว : เพื่อช่วยชะล้างนิ่วในไตหรือการติดเชื้อ
  • ยา : เพื่อควบคุมอาการป่วยต่างๆ เช่น โรคไต หรือลดการอักเสบ
  • การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต : รวมถึงการปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายเพื่อป้องกันนิ่วในไต
  • การผ่าตัด : ในกรณีของนิ่วในไตรุนแรง เนื้องอก หรือปัญหาโครงสร้างอื่น ๆ

ปัสสาวะเป็นเลือด หายเองได้ไหม

ภาวะปัสสาวะเป็นเลือดบางครั้งอาจหายได้เองขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง ตัวอย่างเช่น หากเลือดออกเกิดจากการออกกำลังกายหนักหรือยาบางชนิด เลือดอาจหยุดไหลเมื่อคุณพักผ่อนหรือหยุดใช้ยา อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจภาวะนี้อาจเป็นสัญญาณของโรคที่ร้ายแรงกว่า เช่น การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTI) นิ่วในไต มะเร็งกระเพาะปัสสาวะหรือไต หรือปัญหาทางระบบทางเดินปัสสาวะอื่น ๆ ดังนั้นขอแนะนำว่าไม่ควรวินิจฉัยโรคด้วยตนเองหรือคิดเอาเองว่าปัญหาจะหายได้เองในที่สุด หากคุณสังเกตเห็นเลือดในปัสสาวะ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการประเมินและวินิจฉัยที่ถูกต้อง ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์จะสามารถระบุสาเหตุที่แท้จริงและแนะนำการรักษาที่เหมาะสมได้หากจำเป็น การล่าช้าในการดูแลทางการแพทย์อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนหรืออาการแย่ลงได้

ปัสสาวะเป็นเลือด ป้องกันได้อย่างไร

แม้ว่าการป้องกันภาวะเลือดออกในปัสสาวะไม่สามารถทำได้ทุกกรณี แต่ก็มีหลายวิธีที่ผู้หญิงสามารถเลือกปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงนี้ได้

● รักษาระดับน้ำในร่างกายให้เหมาะสม

การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยเจือจางปัสสาวะและชะล้างแบคทีเรีย ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTIs) ซึ่งเป็นสาเหตุทั่วไปของโรคเลือดออกในปัสสาวะ

●  ฝึกสุขอนามัยที่ดี

หลังทำความสะอาดการเช็ดอวัยวะเพศจากด้านหน้าไปด้านหลัง จะช่วยป้องกันแบคทีเรียเข้าสู่ท่อปัสสาวะได้

● ปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธ์

การปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธ์จะช่วยชะล้างแบคทีเรียที่อาจเข้าไปในท่อปัสสาวะระหว่างมีกิจกรรมทางเพศได้

● หลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน

การกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานานเป็นการบังคับให้ร่างกายเก็บสะสมเชื้อโรคโดยไม่จำเป็น ดังนั้นการปัสสาวะอย่างสม่ำเสมอทุกครั้งที่ปวด สามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้

● จัดการกับภาวะสุขภาพพื้นฐาน

ภาวะต่าง ๆ เช่น เบาหวานและความดันโลหิตสูง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกในปัสสาวะ การจัดการภาวะเหล่านี้อย่างเหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงได้

● ระมัดระวังการใช้ยา

ยาบางชนิด เช่น ยาละลายลิ่มเลือดและยาแก้ปวดบางชนิด อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการมีเลือดออกได้ ขอแนะนำ
ให้ปรึกษากับแพทย์ของคุณเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและทางเลือกอื่น ๆ ที่เหมาะสมกว่าหากจำเป็น

● รักษาคุณภาพชีวิตให้มีสุขภาพที่ดี

รวมถึงการไม่สูบบุหรี่ รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และรับประทานอาหารที่สมดุล

ภาวะปัสสาวะเป็นเลือดเป็นอาการที่ไม่ควรละเลย การทำความเข้าใจถึงสาเหตุ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น การรับรู้ถึงอาการที่เกี่ยวข้อง และการเข้ารับการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์อย่างทันท่วงที จะช่วยให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสมและส่งผลดีต่อสุขภาพมากขึ้น

สรุป

ภาวะปัสสาวะเป็นเลือดในผู้หญิงเป็นอาการที่อาจเกิดจากสาเหตุหลากหลาย ตั้งแต่การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTI) นิ่วในไต ไปจนถึงโรคร้ายแรงอย่างมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ แม้ว่าบางกรณีอาจหายได้เอง เช่น จากการออกกำลังกายหนัก แต่การปล่อยผ่านโดยไม่ตรวจวินิจฉัยอาจเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนได้ การสังเกตอาการ เช่น ปัสสาวะขุ่น ปวด หรือมีไข้ ร่วมกับการติดต่อแพทย์ทันทีเมื่อเห็นเลือด จะช่วยให้ระบุสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสมได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ การป้องกันด้วยการดื่มน้ำเพียงพอ รักษาสุขอนามัย และดูแลสุขภาพจุดซ่อนเร้นอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงและส่งเสริมสุขภาพทางเดินปัสสาวะให้แข็งแรงในระยะยาว

บทความน่าสนใจ

Picture of แพทย์หญิง ธนวรรณ ศิริสุข

แพทย์หญิง ธนวรรณ ศิริสุข

สูตินรีแพทย์เฉพาะทาง ดูแลด้านความงามจุดซ่อนเร้นและสุขภาพเพศ
Gynecologist, providing care services in Aesthetic Gynecology and sexology, Global Speaker

บทความใหม่

ค้นหาข้อมูล

บริการของเรา