Genitique clinic

ทำความรู้จักภาวะ มีเลือดออกทางช่องคลอดแต่ไม่ใช่ประจำเดือน

อาการมีเลือดออกทางช่องคลอดแต่ไม่ใช่ประจำเดือน ฟังดูอาจเป็นเรื่องน่าตกใจสำหรับผู้หญิงหลายคน แม้ว่าภาวะดังกล่าวอาจมีสาเหตุได้มากมาย ตั้งแต่ความผันผวนของฮอร์โมนที่ไม่เป็นอันตราย ไปจนถึงภาวะอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องพบแพทย์ เช่น การติดเชื้อหรือเนื้องอก สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าไม่ควรละเลยหากยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด บทความนี้จะพาไปสำรวจสาเหตุที่เป็นไปได้ของการมีเลือดออกทางช่องคลอดโดยไม่ใช่ประจำเดือน ชี้ให้เห็นว่าอาการแบบไหนที่สามารถดูแลตัวเองได้ และแบบไหนควรต้องปรึกษาแพทย์

สารบัญ

การมีเลือดออกทางช่องคลอดแต่ไม่ใช่ประจำเดือน เกิดจากอะไร

เลือดออกจากช่องคลอดแต่ไม่ใช่ประจำเดือน อาจเกิดจากหลายสาเหตุ แต่ละสาเหตุต่างก็มีระดับความรุนแรงไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงควรติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และควรรีบปรึกษาแพทย์หากพบความผิดปกติดังกล่าว ทั้งนี้เพื่อรับการวินิจฉัยและแผนการรักษาที่เหมาะสม โดยสาเหตุของการมีเลือดออกทางช่องคลอด เกิดขึ้นได้หลายอาการดังนี้

  1. ความไม่สมดุลของฮอร์โมน

ความไม่สมดุลของฮอร์โมน โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน อาจทำให้เกิดภาวะเลือดออกกระปริดกระปรอย ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อใช้ยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมน หรืออีกประเด็นก็คือเกิดในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น วัยก่อนหมดประจำเดือน เป็นต้น

  1. การตกไข่

ผู้หญิงบางคนอาจมีเลือดออกเล็กน้อย หรือเลือดออกกระปริดกระปรอยในระหว่างการตกไข่ ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงกลางของรอบประจำเดือน

  1. เลือดออกจากการฝังตัวของตัวอ่อน

ในช่วงต้นของการตั้งครรภ์ผู้หญิงบางคนอาจมีเลือดออกเล็กน้อยเมื่อไข่ที่ได้รับการผสมฝังตัวในเยื่อบุโพรงมดลูก

  1. การติดเชื้อ

การติดเชื้อในช่องคลอดหรือบริเวณปากมดลูก เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STI) เช่น หนองในเทียม หรือหนองในแท้ อาจทำให้มีเลือดออกได้ การติดเชื้อที่ไม่เกี่ยวข้องกับ STI เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด ก็อาจทำให้มีเลือดออกได้เช่นกัน

  1. เนื้องอกที่ปากมดลูกหรือเยื่อบุโพรงมดลูก

กรณีคนไข้มีก้อนซีสต์ซึ่งเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงบริเวณปากมดลูก หรือเยื่อบุโพรงมดลูกก็อาจทำให้มีเลือดออกผิดปกติได้

  1. เนื้องอกในมดลูก

เนื้องอกในมดลูกเป็นเนื้องอกที่ไม่ใช่เนื้อร้าย ซึ่งอาจทำให้มีเลือดออกมาก หรือเลือดออกกระปริดกระปรอยระหว่างมีรอบเดือน

  1. โรคปากมดลูกเจริญผิดปกติหรือมะเร็ง

การเปลี่ยนแปลงผิดปกติในเซลล์ของปากมดลูก (Cervical dysplasia) หรือเป็นมะเร็งปากมดลูก อาจทำให้เกิดเลือดออกโดยเฉพาะหลังมีเพศสัมพันธ์

  1. โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

ภาวะที่เนื้อเยื่อคล้ายกับเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตภายนอกมดลูก อาจทำให้เกิดเลือดผิดปกติและมีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย

  1. การแท้งบุตรหรือการตั้งครรภ์นอกมดลูก

ในระยะเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ หากมีเลือดออกอาจเป็นสัญญาณของการแท้งบุตร หรือการตั้งครรภ์นอกมดลูก โดยเลือดจะไหลจากบริเวณจุดที่ตัวอ่อนฝังตัวอยู่ภายนอกมดลูก

  1. บาดแผลหรือการบาดเจ็บ

การบาดเจ็บที่บริเวณช่องคลอด หรือปากมดลูก มักเกิดจากกิจกรรมทางเพศ อาจทำให้เกิดเลือดออกได้เช่นกัน

  1. ยา

ยาบางชนิดโดยเฉพาะยาละลายลิ่มเลือด หรือยาที่กระทบต่อสมดุลของฮอร์โมน อาจทำให้เกิดภาวะเลือดออกผิดปกติได้

  1. ขั้นตอนทางการแพทย์

การตรวจอุ้งเชิงกราน การตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear) ซึ่งเป็นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก หรือการใส่ห่วงอนามัย บางครั้งอาจทำให้เกิดเลือดออกเล็กน้อยได้

Genitique clinic

มีเลือดออกเป็นลิ่มไม่ใช่ประจำเดือน อันตรายไหม

นอกจากภาวะมีเลือดออกทางช่องคลอดที่ไม่ใช่ประจำเดือนแล้ว กรณีเลือดออกมีลักษณะเป็นลิ่มเลือด ถือเป็นกลไกตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้กับผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์เช่นกัน อย่างไรก็ตามหากลิ่มเลือดที่ผสมกับเลือดประจำเดือนมีมากเกินไป หรือมีลักษณะเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่เกิน 2 ซม. หรือมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย ภาวะดังกล่าวอาจมีความผิดปกติเกิดขึ้นและควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย

  • เนื้องอกในมดลูก
  • ติ่งเนื้อในโพรงมดลูก
  • พังผืดในมดลูก (เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่)
  • ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือโปรเจสเตอโรนไม่สมดุล
  • มะเร็งปากมดลูก
  • มะเร็งโพรงมดลูก
  • โรคที่มีผลในการแข็งตัวของเลือด

วิธีป้องกันภาวะมีเลือดออกทางช่องคลอดแต่ไม่ใช่ประจำเดือน

ภาวะมีเลือดออกที่ช่องคลอดที่ไม่ใช่ประจำเดือน แม้เป็นเรื่องที่น่ากังวลแต่ก็มีวิธีป้องกันอาการดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับความเข้าใจที่ถูกต้อง รวมถึงการดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ต่อไปนี้คือวิธีป้องกันโดยทั่วไปบางประการที่อยากแนะนำ

  • วิถีชีวิตที่เอื้อต่อสุขภาพ

รับประทานอาหารที่มีวิตามินซีและธาตุเหล็กให้เพียงพอ เพื่อรักษาหลอดเลือดให้แข็งแรง และป้องกันปัญหาต่าง ๆ เช่น โรคโลหิตจาง ซึ่งอาจทำให้เกิดเลือดออกไม่ปกติได้ รวมถึงหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อช่วยในการควบคุมสมดุลของฮอร์โมน ซึ่งสามารถป้องกันเลือดออกผิดปกติอันเกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนได้

  • จัดการกับระดับฮอร์โมน

หากใช้ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมน โปรดตรวจสอบว่าใช้ยาอย่างถูกต้อง การลืมรับประทานยาหรือใช้ไม่ต่อเนื่องอาจทำให้เกิดเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ รวมทั้งความเครียดที่มากเกินไป อาจรบกวนสมดุลของฮอร์โมน ส่งผลให้เลือดออกผิดปกติ

  • การตรวจสุขภาพช่องคลอดเป็นประจำ

การตรวจสุขภาพช่องคลอดเป็นประจำทุกปี สามารถป้องกันเลือดออกผิดปกติจากภาวะช่องคลอดอักเสบ หรือโรคอุ้งเชิงกรานอักเสบ รวมถึงภาวะต่าง ๆ เช่น PCOS หรือความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ที่อาจทำให้มีเลือดออกผิดปกติได้

  • ระมัดระวังการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับช่องคลอด

ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องคลอดที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และไม่มีกลิ่น เพื่อหลีกเลี่ยงอาการระคายเคืองต่อเยื่อบุช่องคลอด กรณีมีเพศสัมพันธ์อาจใช้สารหล่อลื่นเพื่อป้องกันการฉีกขาดของช่องคลอด สำหรับสตรีวัยหมดประจำเดือน การใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงช่องคลอด หรือการบำบัดด้วยเอสโตรเจน (หากแพทย์แนะนำ) สามารถป้องกันภาวะช่องคลอดอักเสบซึ่งอาจทำให้เกิดเลือดออกได้

Genitique clinic

มีเลือดออกทางช่องคลอดแต่ไม่ใช่ประจำเดือน อาการแบบไหนที่ต้องพบแพทย์

หากคุณมีเลือดออกจากช่องคลอดและไม่แน่ใจว่าเกี่ยวข้องกับรอบเดือนหรือสาเหตุอื่น สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตตัวเองและประเมินสถานการณ์ ดังนี้ :

ตรวจสอบปริมาณเลือด : สังเกตปริมาณเลือด หากซึมผ่านผ้าอนามัยภายใน 1 ชั่วโมง หรือเลือดออกนานเกินกว่า 2-3 ชั่วโมง แสดงว่าต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ

ระดับความเจ็บปวด : หากรู้สึกปวดเกร็ง ปวดแปลบ ๆ บริเวณช่องท้องหรืออุ้งเชิงกราน ความเจ็บปวดที่รุนแรงอาจบ่งบอกถึงปัญหาที่ร้ายแรง

อ่อนเพลียหรือเวียนศีรษะ : อาการเหล่านี้ ร่วมกับการมีเลือดออกมาก อาจบ่งบอกว่าคุณเสียเลือดมากกว่าปกติ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะโลหิตจางได้

ตกขาวผิดปกติ : หากมีตกขาวกลิ่นเหม็น หรือตกขาวสีผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ

กิจกรรมทางเพศ : การมีเพศสัมพันธ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ อาจทำให้เกิดเลือดออกได้ โดยเฉพาะถ้ามีเพศสัมพันธ์อย่างรุนแรง หรือหากเป็นครั้งแรกจนเนื้อเยื่อภายในช่องคลอดเป็นแผลฉีกขาด

การติดเชื้อหรือภาวะทางการแพทย์ : ภาวะต่าง ๆ เช่น โรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) เนื้องอกในมดลูก หรือการติดเชื้อ อาจทำให้มีเลือดออกไม่ปกติได้เช่นกัน

เลือดออกหลังวัยหมดประจำเดือน : หากเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนแล้ว และยังมีเลือดออกทางช่องคลอดอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ได้เช่นกัน

สรุป

ภาวะมีเลือดออกทางช่องคลอดแต่ไม่ใช่ประจำเดือน อาจเป็นแค่เรื่องปกติที่เกิดขึ้นในช่วงหนึ่งของชีวิตผู้หญิง อย่างไรก็ตามหากมีเลือดออกมากเกินไป หรือหาสาเหตุไม่ได้ หรือมีอาการแทรกซ้อนอื่นร่วมด้วย ควรรีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อทำการวินิจฉัยทันที เพราะอาจมีโรคอื่น ๆ ที่ไม่คาดคิดซ่อนอยู่ สำหรับท่านใดที่ไม่แน่ใจว่าตนเองเข้าข่ายมีเลือดออกผิดปกติหรือไม่ GENITIQUE CLINIC ยินดีเป็นพื้นที่ปลอดภัย พร้อมให้คำแนะนำแก่คนไข้ที่มีปัญหาสุขภาพทางเพศทุกท่าน เพราะที่นี่คือ คลินิกเฉพาะทางความงามจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 062-9244966 หรือ Line: @Genitiqueclinic เรายินดีให้บริการอย่างใกล้ชิดทุกเคสค่ะ

บทความน่าสนใจ

Picture of แพทย์หญิง ธนวรรณ ศิริสุข

แพทย์หญิง ธนวรรณ ศิริสุข

Global Speaker and Trainer in Aesthetic Gynecology แพทย์ผู้สอนงานประชุมวิชาการ ทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก และ American Board of Cosmetic Gynecology, U.S.A. (คนแรกของไทย)

บทความใหม่

ค้นหาข้อมูล

บริการของเรา