ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน

ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน 2567 วิธีเลือกและข้อควรระวังที่ผู้หญิงต้องรู้

ยาคุม คือ ตัวเลือกของการคุมกำเนิดของผู้หญิงที่สะดวกและมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการตั้งครรภ์ สำหรับยาคุมกินแล้วไม่อ้วนได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากโดยส่วนใหญ่การกินยาคุมผลข้างเคียงที่สร้างความกังวล ก็คือ กินแล้วทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความกังวลใจให้กับผู้หญิงจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายคนลังเลหรือมองหาทางเลือกอื่น Genitique clinic จะมาไขความกระจ่างให้ได้ทราบถึงยาคุมที่กินแล้วไม่อ้วนมีหรือไม่ หาซื้อได้ที่ไหน ข้อดีและข้อควรระวังที่ต้องรู้ มาติดตามได้ในบทความนี่้ค่ะ

สารบัญ

ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน มีกี่ประเภท

ยาคุมกำเนิดโดยทั่วไปจะมีฮอร์โมนสังเคราะห์ที่เลียนแบบฮอร์โมนตามธรรมชาติในร่างกายของผู้หญิง เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ สำหรับยาคุมกำเนิดชนิดรับประทานมีอยู่ 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่

  1. ยาคุมกำเนิดแบบผสม (COC) : เป็นยาคุมกำเนินชนิดฮอร์โมนรวม ประกอบด้วยเอสโตรเจนและโปรเจสติน

เหมาะสำหรับ

  • บุคคลที่มีสุขภาพดี ไม่สูบบุหรี่ และมีอายุต่ำกว่า 35 ปี : COC โดยทั่วไปจะปลอดภัยสำหรับผู้หญิงที่ไม่สูบบุหรี่และมีอายุต่ำกว่า 35 ปี
  • สตรีที่มีรอบเดือนปกติ : COC สามารถช่วยควบคุมรอบเดือนได้ จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับสตรีที่มีรอบเดือนปกติที่ต้องการคุมกำเนิด
  • บุคคลที่ไม่มีภาวะสุขภาพที่ห้ามใช้ : ผู้หญิงที่ไม่มีประวัติลิ่มเลือด โรคหลอดเลือดสมอง หรือมะเร็งที่ไวต่อฮอร์โมนเอสโตรเจน สามารถใช้ COC ได้
  • ผู้หญิงที่มองหาประโยชน์ด้านอื่นที่ไม่ใช่แค่การคุมกำเนิด : COC สามารถลดอาการปวดประจำเดือน ทำให้มีประจำเดือนน้อยลง และอาจช่วยลดสิวได้
  • บุคคลที่มีอาการถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) : COC สามารถช่วยจัดการอาการของ PCOS เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ และระดับแอนโดรเจนที่มากเกินไป
  • สตรีที่มีความเสี่ยงต่อมะเร็งรังไข่และเยื่อบุโพรงมดลูก : การใช้ COC ในระยะยาวมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อมะเร็งรังไข่และเยื่อบุโพรงมดลูกที่ลดลง

ไม่เหมาะกับ

  • ผู้สูบบุหรี่ที่มีอายุมากกว่า 35 ปี : เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะหลอดเลือดหัวใจ เช่น ลิ่มเลือด หัวใจวาย และโรคหลอดเลือดสมอง
  • สตรีที่มีประวัติลิ่มเลือดหรือโรคหลอดเลือดสมอง : เอสโตรเจนใน COC เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือด จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีประวัติโรคลิ่มเลือดอุดตัน
  • สตรีที่มีโรคมะเร็งบางชนิด : สตรีที่มีประวัติมะเร็งเต้านม มะเร็งตับ หรือมะเร็งชนิดอื่นที่ไวต่อเอสโตรเจน ควรหลีกเลี่ยงการใช้ COC
  • บุคคลที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงที่ไม่ได้รับการควบคุม : ความดันโลหิตสูงที่ไม่ได้รับการควบคุมที่ดีอาจรุนแรงขึ้นได้จากฮอร์โมนเอสโตรเจนใน COC
  • สตรีที่มีไมเกรนพร้อมออร่า : COC อาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองในสตรีที่มีไมเกรนออร่า (มีอาการเตือนก่อนจะเริ่มปวดหัว)
  • สตรีที่มีโรคตับ : COC จะถูกเผาผลาญโดยตับ ดังนั้นจึงไม่แนะนำสำหรับสตรีที่มีโรคตับ
  • ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานที่มีภาวะแทรกซ้อน : ผู้หญิงที่เป็นโรคเบาหวานและมีภาวะแทรกซ้อนทางหลอดเลือดควรหลีกเลี่ยงการใช้ COC เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อภาวะหลอดเลือดและหัวใจที่เพิ่มมากขึ้น
  • สตรีที่กำลังให้นมบุตร : COC อาจลดการผลิตน้ำนม ดังนั้นจึงมักไม่แนะนำให้รับประทานในช่วง 6 สัปดาห์แรกหลังคลอดสำหรับมารดาที่ให้นมบุตร
  1. ยาเม็ดที่มีเฉพาะโปรเจสติน (POP) : เป็นยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว ซึ่งมีเฉพาะโปรเจสตินเท่านั้น เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ไม่สามารถกินยาคุมที่มีส่วนผสมของเอสโตรเจนได้

เหมาะสำหรับ

  • ผู้ที่ไม่สามารถรับประทานเอสโตรเจนได้ : POP เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้หญิงที่ได้รับคำแนะนำไม่ให้รับประทานเอสโตรเจนเนื่องจากภาวะต่าง ๆ เช่น มีประวัติลิ่มเลือด ไมเกรนที่มีอาการออร่า หรือความดันโลหิตสูง
  • สตรีที่ให้นมบุตร : สาร POP ไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำนม ทำให้เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยสำหรับมารดาที่ให้นมบุตร
  • สตรีที่มีอายุมากกว่า 35 ปีที่สูบบุหรี่ : ไม่แนะนำยาเม็ดที่ประกอบด้วยเอสโตรเจนสำหรับกลุ่มนี้ ดังนั้น POP จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า
  • สตรีที่เพิ่งคลอดบุตร : สามารถเริ่มใช้ POP ได้ในทันทีหลังคลอด เนื่องจากไม่มีความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดเหมือนกับยาเม็ดคุมกำเนิดแบบรวม
  • ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด : เนื่องจาก POP ไม่มีเอสโตรเจน จึงโดยทั่วไปจึงปลอดภัยกว่าสำหรับผู้หญิงที่มีความเสี่ยงต่อปัญหาหลอดเลือดและหัวใจสูง

ไม่เหมาะกับ

  • หญิงตั้งครรภ์ : อาจมีความเสี่ยงทำให้เกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์
  • ผู้ที่มีมะเร็งเต้านมระยะรุนแรง : โดยทั่วไปสตรีที่มีประวัติเป็นมะเร็งเต้านมมักจะหลีกเลี่ยงการคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมน
  • ผู้ที่มีโรคตับ : โรคตับขั้นรุนแรงอาจขัดขวางการใช้ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมน
  • ผู้ที่มีเลือดออกทางช่องคลอดโดยไม่ทราบสาเหตุ : ควรประเมินการมีเลือดออกทางช่องคลอดโดยไม่ทราบสาเหตุก่อนเริ่มใช้ POP
  • ผู้ที่มีปัญหาในการรับประทานยาตามกำหนดเวลาอย่างเคร่งครัด : จำเป็นต้องรับประทานยา POP ในเวลาเดียวกันทุกวันเพื่อให้ได้ผลสูงสุด ผู้ที่มีปัญหาในการรักษาตารางเวลาอย่างเคร่งครัดอาจพบว่าการใช้ยา POP มีประสิทธิภาพเป็นเรื่องท้าทาย

**ยา POP อาจทำให้มีเลือดออกไม่ปกติ จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้รอบเดือนมาสม่ำเสมอ

  1. ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน (Emergency contraception pill) : เป็นยาคุมที่ปริมาณฮอร์โมนสูง รับประทานหลังจากมีเพศสัมพันธ์ เพื่อลดโอกาสที่จะตั้งครรภ์ แต่ควรเลือกรับประทานเฉพาะเวลาจำเป็นเท่านั้น เช่น กรณีถูกข่มขืน ถุงยางแตก หลุด หรือห่วงคุมกำเนิดหลุด

ยาคุมกำเนิด มีส่วนผสมอะไรบ้าง

ยาคุมกำเนิด มีส่วนผสมอะไรบ้าง

ยาคุมกำเนิดแบบรับประทาน โดยทั่วไปจะมีฮอร์โมนสังเคราะห์ที่เลียนแบบฮอร์โมนตามธรรมชาติในร่างกายของผู้หญิง ฮอร์โมนเหล่านี้ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์โดยยับยั้งการตกไข่ ทำให้มูกปากมดลูกเหนียวข้นขึ้น และทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง สารหลักที่มีในยาคุมกำเนิดประเภทนี้ได้แก่

  1. เอสโตรเจน

เอทินิลเอสตราไดออล : เป็นเอสโตรเจนสังเคราะห์ที่ใช้กันมากที่สุดในยาคุมกำเนิดแบบผสม ช่วยควบคุมรอบเดือนและป้องกันการตกไข่

เมสทราโนล : เอสโตรเจนอีกรูปแบบหนึ่งที่บางครั้งมีการใช้ แม้ว่าจะไม่ค่อยใช้กันบ่อยนัก

  1. โปรเจสติน

เลโวนอร์เจสเทรล (Levonorgestrel) : โปรเจสเตอโรนสังเคราะห์ที่มักใช้ในยาคุมกำเนิดหลายชนิด โดยจะป้องกันการตกไข่และทำให้มูกปากมดลูกเหนียวข้นขึ้น

นอร์อิทินโดรน (Norethindrone) : โปรเจสตินอีกชนิดหนึ่งที่ใช้ในยาคุมกำเนิด ซึ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตกไข่

ดรอสไพรโนน (Drospirenone) : โปรเจสตินประเภทใหม่ที่มักใช้ในยาเม็ดคุมกำเนิดแบบรวม เนื่องจากมีคุณสมบัติในการลดอาการท้องอืดและผลข้างเคียงอื่น ๆ

เดโซเจสเทรล นอร์เจสทิเมต และอื่น ๆ (Norgestimate) : โปรเจสตินสังเคราะห์อื่น ๆ ที่ใช้ในสูตรต่าง ๆ

ยาคุมกินแล้วอ้วน เป็นเพราะอะไร

การกินยาคุมแล้วน้ำหนักขึ้นเกิดจากปริมาณฮอร์โทนเอสโตรเจนที่มากเกินไป ทำให้ร่างกายเกิดอาการบวมน้ำเพราะร่างกายได้เพิ่มการกักเก็บของเหลวมากขึ้น ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นชั่วคราว นอกจากนี้สารอย่างโปรเจสตินหากมีมากเกินไป จะทำให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้นเช่นกันส่งผลให้น้ำหนักตัวขึ้นได้

ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน มีหรือไม่

มียาคุมบางชนิดที่มีโอกาสทำให้น้ำหนักตัวขึ้นได้ โดยจะขึ้นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของยาคุมกำเนิด ส่วนผสม รวมถึงปริมาณที่รับประทานและการตอบสนองทางร่างกายของแต่ละบุคคล

  1. ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบผสม

ยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีส่วนผสมที่ประกอบด้วยเอสโตรเจนในปริมาณที่สูงกว่า ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการบวมน้ำและอาการท้องอืดได้ อย่างไรก็ตามยาเม็ดคุมกำเนิดแบบผสมส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะมีเอสโตรเจนในปริมาณที่ต่ำกว่า จึงลดโอกาสที่จะมีน้ำหนักขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

  1. ยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีเฉพาะโปรเจสติน (ยาเม็ดขนาดเล็ก)

ยาคุมมีส่วนผสมเป็นโปรเจสตินและไม่มีเอสโตรเจน ยาคุมประเภทนี้มีแนวโน้มที่จะทำให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นน้อยกว่า เนื่องจากไม่มีผลในการกักเก็บน้ำในร่างกาย อย่างไรก็ตาม อาจทำให้มีน้ำหนักเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

  1. ยาคุมกำเนิดขนาดต่ำ

ยาคุมกำเนิดบางชนิดมีเอสโตรเจนในปริมาณต่ำ (20-35 ไมโครกรัม) ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงในการเพิ่มน้ำหนักได้ ยาคุมกำเนิดชนิดนี้มักแนะนำสำหรับผู้ที่กังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงนี้

สำหรับสาว ๆ ที่กลัวผลข้างเคียงเรื่องน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นจากการรับประทานยาคุมกำเนิด ขอแนะนำให้เลือกรับประทานยาคุมชนิดที่มีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจน 0.02 มิลลิกรัม หรือเลือกใช้ยาคุมกำเนิดที่มีตัวยาดรอสไพรีโนน (Drospirenone) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดอาการบวมน้ำ นอกจากปัจจัยดังที่กล่าวมาทั้งหมดแล้ว น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นยังเกี่ยวข้องกับ การตอบสนองของแต่ละบุคคล บางคนอาจมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเมื่อรับประทานยาชนิดหนึ่ง แต่ไม่เพิ่มขึ้นเมื่อรับประทานยาอีกชนิดหนึ่ง นอกจากนี้การกักเก็บน้ำในร่างกายเทียบกับการสะสมไขมันในร่างกาย หลาย ๆ คนมักสับสนระหว่างการกักเก็บน้ำในร่างกายชั่วคราวกับการเพิ่มน้ำหนัก ฮอร์โมนเอสโตรเจนสามารถทำให้ร่างกายของคุณกักเก็บน้ำในร่างกายมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้คุณรู้สึกอึดอัด แต่นี่ไม่ใช่เรื่องเดียวกันกับการสะสมไขมันในร่างกาย และสุดท้ายปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์ การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และไลฟ์สไตล์โดยรวมมีบทบาทสำคัญในการควบคุมน้ำหนัก ไม่ว่าจะใช้การคุมกำเนิดแบบใดก็ตาม ทั้งนี้หากน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากผิดปกติอาจต้องปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางเพื่อลองปรับขนาดยาลดลง หรือใช้ยาที่มีเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสติน หรือเลือกวิธีคุมกำเนิดแบบธรรมชาติ

ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน

ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน ราคาไม่แพง ยี่ห้อไหนดี

ยาคุมกำเนิดสมัยใหม่ส่วนใหญ่มีปริมาณยาต่ำและโดยทั่วไปจะไม่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามปฏิกิริยาของร่างกายแต่ละคนอาจแตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกยาคุมกำเนิดที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับสุขภาพ ความชอบ และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ต่อไปนี้เป็นแบรนด์ยอดนิยมบางส่วนที่ผู้หญิงหลายคนยอมรับว่าดี

  1. Yaz : ยาคุมยี่ห้อนี้ช่วยเรื่องปรับฮอร์โมนเอสโตรเจนให้อยู่ในระดับต่ำ มีฤทธิ์ลดการบวมน้ำ เหมาะกับคนที่กลัวอ้วน ทั้งยังช่วยให้ผิวใส ผิวหน้ามันน้อยลง
  2. Melodia : ยาคุมยี่ห้อนี้ช่วยลดการบวมน้ำ ไม่ทำให้อ้วน นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการปวดท้องบ่อย ๆ ตึงหน้าอก และช่วยลดสิวได้ด้วย
  3. JUSTIMA : เป็นยาคุมที่มีระดับฮอร์โมนเอสโตเจนที่ 0.03 มิลลิกรัม ซึ่งไม่ทำให้บวมน้ำ และยังช่วยลดสิวได้อีกด้วย
  4. Chariva : ยาคุมยี่ห้อนี้ตอบโจทย์ผู้หญิงที่กังวลเรื่องน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ไม่ทำให้บวมน้ำ ไม่ทำให้อ้วน ทั้งยังช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน สิวลดน้อยลง
  5. PREME : ยี่ห้อนี้ช่วยปรับฮอร์โมนร่างกายให้สมดุล ไม่ทำให้เกิดอาการบวมน้ำ ไม่ทำให้เกิดสิวอักเสบ ช่วยปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น

การพิจารณาเลือกซื้อยาคุมกำเนิดที่ถูกต้อง

การเลือกยาคุมกำเนิดชนิดรับประทานที่เหมาะสมถือเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ ซึ่งควรพิจารณาจากความต้องการด้านสุขภาพและไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล ต่อไปนี้คือหลักการและคำแนะนำสำคัญบางประการที่จะถูกนำมาพิจารณาเพื่อประกอบการตัดสินใจมีดังนี้

  1. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ

ประวัติทางการแพทย์ : ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจะพิจารณาประวัติทางการแพทย์ รวมถึงภาวะที่มีอยู่ก่อน เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไมเกรน หรือประวัติลิ่มเลือด

ประวัติครอบครัว : เช็กประวัติครอบครัวเกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง หรือโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ความชอบส่วนบุคคล : เช็กความสามารถในการทนต่อฮอร์โมน ความต้องการในการควบคุมประจำเดือน และต้องการยาที่มีผลข้างเคียงน้อยกว่าหรือไม่

  1. ประเภทของยาคุมกำเนิด

ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบผสม (เอสโตรเจนและโปรเจสติน) : เป็นยาที่ออกฤทธิ์โดยป้องกันการตกไข่ นอกจากนี้ยังช่วยปรับรอบเดือนและลดอาการปวดประจำเดือนอีกด้วย

ยาเม็ดที่มีเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสติน (ยาเม็ดขนาดเล็ก) : เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่สามารถรับประทานฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ เช่น สตรีที่กำลังให้นมบุตร หรือผู้ที่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพบางประการ

  1. เข้าใจปริมาณฮอร์โมน

ยาคุมที่มีขนาดฮอร์โมนต่ำเมื่อเทียบกับยาขนาดปกติ : ยาขนาดต่ำจะมีเอสโตรเจนน้อยกว่า ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้และเต้านมเจ็บ แต่ก็อาจทำให้มีเลือดออกกะทันหันมากขึ้นได้เช่นกัน

ยาคุมกำเนิดแบบต่อเนื่องหรือแบบขยายรอบเดือน : ยาเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดจำนวนประจำเดือนที่คุณมี ซึ่งอาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน

  1. พิจารณาประโยชน์ที่มากกว่าการคุมกำเนิด

การควบคุมสิว : ยาคุมบางชนิดสามารถช่วยรักษาสิวได้

การควบคุมประจำเดือน : สามารถใช้ยาคุมเพื่อควบคุมประจำเดือนที่ไม่สม่ำเสมอ หรือลดเลือดออกมากในช่วงมีประจำเดือน

บรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) : ยาคุมบางชนิดสามารถบรรเทาอาการของ PMS และ PMDD (โรคอารมณ์แปรปรวนก่อนมีประจำเดือน) ได้

  1. ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

ผลข้างเคียงที่พบบ่อย : อาจรวมถึงอาการคลื่นไส้ น้ำหนักขึ้น อารมณ์เปลี่ยนแปลง และมีเลือดออกกระปริดกระปรอยระหว่างรอบเดือน

ความเสี่ยงร้ายแรง : แม้จะพบได้น้อย แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดลิ่มเลือด โดยเฉพาะในผู้สูบบุหรี่ที่มีอายุมากกว่า 35 ปี และผู้ที่มีประวัติอาการผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด

  1. ไลฟ์สไตล์การดำเนินชีวิต

กิจวัตรประจำวัน : พิจารณากิจวัตรประจำวันของคุณว่าสามารถกินยาในเวลาเดียวกันทุกวันมากน้อยเพียงใด หากกังวลเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อกำหนด ยาคุมกำเนิดแบบออกฤทธิ์ยาวนาน (เช่น IUD) อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

ปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์ : หากคุณเดินทางบ่อยครั้งหรือมีตารางงานที่ไม่แน่นอน อาจส่งผลต่อชนิดของยาเม็ดที่คุณเลือก

  1. ต้นทุนและการเข้าถึง

ความคุ้มครองจากประกันภัย : ตรวจสอบว่าประกันภัยของคุณครอบคลุมยาที่คุณกำลังพิจารณาซื้อหรือไม่ หรือสามารถจ่ายเองได้หรือไม่

ยาสามัญเทียบกับยาที่มีชื่อทางการค้า : เปรียบเทียบราคาระหว่างยาสามัญทั่วไปที่มีประสิทธิภาพเท่ากันและมีราคาไม่แพง

  1. จริยธรรมและความเชื่อส่วนบุคคล

การวางแผนครอบครัวแบบธรรมชาติ : บางคนอาจต้องการหลีกเลี่ยงฮอร์โมนสังเคราะห์โดยสิ้นเชิง เนื่องจากความเชื่อส่วนตัวหรือทางศาสนา และอาจลองใช้วิธีการวางแผนครอบครัวแบบธรรมชาติแทน

สรุป

ได้ทราบกันไปแล้วเกี่ยวกับยาคุมกินแล้วไม่อ้วนเป็นยาคุมกำเนิดประเภทใด เหมาะกับใครและไม่เหมาะกับใครบ้าง พร้อมแนะนำข้อแตกต่างอันเป็นสาระสำคัญที่ควรรู้ การเลือกยาคุมกำเนิดชนิดรับประทานที่ถูกต้องเป็นเรื่องเฉพาะส่วนบุคคล หากพิจารณาหลักการดังที่กล่าวมาข้างต้นนี้และทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณ คุณจะสามารถค้นหาตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของคุณได้ ทั้งนี้เพื่อผลลัพธ์และความปลอดภัยแก่ตัวคุณเอง

บทความน่าสนใจ

Picture of แพทย์หญิง ธนวรรณ ศิริสุข

แพทย์หญิง ธนวรรณ ศิริสุข

Global Speaker and Trainer in Aesthetic Gynecology แพทย์ผู้สอนงานประชุมวิชาการ ทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก และ American Board of Cosmetic Gynecology, U.S.A. (คนแรกของไทย)

บทความใหม่

ค้นหาข้อมูล

บริการของเรา