ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เกิดขึ้นได้อย่างไร

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ Erectile Dysfunction (ED) เป็นปัญหาสุขภาพเพศชายที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะผู้ชายที่เริ่มเข้าสู่ช่วงสูงวัย ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพทางเพศและความเป็นอยู่โดยรวม อย่างไรก็ตามภาวะ (ED) กับสมมติฐานที่ว่ายิ่งอายุมากยิ่งเสี่ยงมาก ดูจะเป็นคำกล่าวที่ยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนกันอยู่ บทความนี้จะมาเจาะลึกความสัมพันธ์ระหว่างอายุและภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไร สำรวจปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อภาวะ (ED) แนวทางป้องกันและวิธีดูแลสุขภาพทางเพศที่ผู้ชายควรรู้ มาติดตามกันได้ในบทความนี้ค่ะ

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หมายถึงอะไร

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หมายถึงการที่เลือดไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงอวัยวะเพศชายได้เต็มที่ ทำให้ไม่สามารถบรรลุหรือคงไว้ซึ่งการแข็งตัวขององคชาตได้นานเพียงพอ สำหรับการมีเพศสัมพันธ์หรือนานพอที่จะสอดใส่เข้าไปในช่องคลอดฝ่ายหญิงได้ ซึ่งสาเหตุของภาวะ (ED) อาจเชื่อมโยงกับความชรา อย่างไรก็ตามภาวะนี้ยังอาจเกิดขึ้นได้กับผู้ชายที่อายุยังน้อยด้วยเช่นกัน ดังนั้นหมายความว่ายังมีอีกหลายเหตุปัจจัย ที่มีส่วนทำให้เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ถึงแม้คนไข้จะมีอายุยังไม่มากก็ตาม สำหรับ อาการนกเขาไม่ขันไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่เป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพกายโดยรวม และเกี่ยวข้องกับระบบการไหลเวียนเลือด เช่น โรคหัวใจขาดเลือด โรคเส้นเลือดสมองอุดตัน นอกจากนี้ภาวะ (ED) มักเป็นต้นเหตุของปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัวอีกด้วย

อายุเกี่ยวข้องกับภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศอย่างไร

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) จะพบได้บ่อยมากขึ้นเมื่อผู้ชายมีอายุมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้เชื่อมโยงกับช่วงอายุใดโดยเฉพาะ โดยทั่วไปความเสี่ยงของภาวะ ED จะเพิ่มขึ้นตามอายุเนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ระดับฮอร์โมนที่ลดลง สภาพร่างกาย ยารักษาโรค และการเลือกรูปแบบการใช้ชีวิต อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าภาวะ ED สามารถส่งผลกระทบต่อผู้ชายได้ทุกวัย ตัวอย่างเช่น ผู้ชายที่อายุน้อยอาจประสบภาวะ ED เนื่องจากปัจจัยทางจิตวิทยา เช่น ความวิตกกังวลหรือความเครียด ปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป การขาดการออกกำลังกาย และการรับประทานอาหารที่ไม่ดี หากคุณกังวลเกี่ยวกับภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศหรือสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงใด ๆ วิธีที่ดีที่สุดคือพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหรือแพทย์เฉพาะทาง เพราะสามารถช่วยระบุสาเหตุที่ซ่อนอยู่และแนะนำการรักษาที่เหมาะสม รวมถึงการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์เพื่อปรับปรุงการทำงานทางเพศและความเป็นอยู่โดยรวมให้ดีขึ้นได้

ผู้ชายเริ่มเข้าสู่ภาวะ ED เมื่ออายุเท่าไร

ไม่มีข้อกำหนดตายตัวว่าผู้ชายจะเริ่มประสบกับภาวะ ED ตอนอายุเท่าไหร่ เนื่องจากประสบการณ์ของแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันอย่างมาก อย่างไรก็ตามจากผลวิจัยส่วนใหญ่พบว่า ผู้ชายอายุต่ำกว่า 40 ปี พบประมาณ 5% ขณะที่ผู้ชายอายุมากกว่า 40 ปี พบประมาณ 50% และเกือบ 70% ได้รับผลกระทบเมื่ออายุ 70 ปีขึ้นไป

ปัจจัยนอกเหนือจากความชรา ที่ส่งผลต่อภาวะ ED มีอะไรบ้าง

  • ปัญหาสุขภาพจิต เช่น ความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า และปัญหาความสัมพันธ์ อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศ
  • เงื่อนไขทางการแพทย์บางอย่างสามารถส่งผลต่อภาวะ ED ได้ อาทิ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ความผิดปกติทางระบบประสาท ความไม่สมดุลของฮอร์โมน (เช่น ระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำ) และโรคอ้วน
  • ยาบางชนิดที่ใช้รักษาปัญหาสุขภาพต่าง ๆ อาจมีผลข้างเคียงที่ส่งผลต่อ ED เช่น ยาลดความดันโลหิต ยารักษาอาการทางประสาท ยาสำหรับภาวะต่อมลูกหมาก และยาเคมีบำบัด
  • ไลฟ์สไตล์การเลือกรูปแบบการใช้ชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป การใช้ยาเสพติด (รวมถึงยาเพื่อการสันทนาการ) ล้วนส่งผลต่อภาวะ ED ทั้งสิ้น
  • การผ่าตัดเกี่ยวกับกระดูกเชิงกรานและต่อมลูกหมาก อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาท หรือภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะเพศ
  • การบาดเจ็บทางร่างกาย เช่น บริเวณอุ้งเชิงกราน ไขสันหลัง หรือเส้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการแข็งตัวของอวัยวะเพศ อาจส่งผลให้เกิดภาวะ ED
  • ภาวะนอนไม่หลับและความเหนื่อยล้า ความผิดปกติของการนอนหลับ เช่น หยุดหายใจขณะหลับ และความเหนื่อยล้าโดยทั่วไป อาจส่งผลต่อระดับฮอร์โมนและพลังงานโดยรวม ซึ่งอาจส่งผลต่อภาวะ ED ได้เช่นกัน

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศแบ่งเป็นกี่ระดับ

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) สามารถแบ่งได้เป็นระดับต่าง ๆ ตามความรุนแรงและความถี่ของอาการดังนี้

อาการน้อย : ในระยะนี้ผู้ชายอาจประสบปัญหาในการแข็งตัวของอวัยวะเพศเป็นครั้งคราว อาจไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อกิจกรรมทางเพศ แต่ก็ยังน่ากังวลอยู่

อาการปานกลาง : ระยะนี้ผู้ชายจะเริ่มประสบปัญหาการแข็งตัวของอวัยวะเพศบ่อยครั้งขึ้น ซึ่งทำให้การมีเพศสัมพันธ์ที่น่าพอใจเป็นเรื่องที่ท้าทาย สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ความหงุดหงิด วิตกกังวล และเริ่มกระทบต่อความสัมพันธ์กับคู่รัก

อาการรุนแรง : ระยะนี้แทบจะไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้สำเร็จเลย ส่งผลกระทบอย่างมากต่อความภาคภูมิใจในตนเอง ความสัมพันธ์ และคุณภาพชีวิตโดยรวมของผู้ชาย

การป้องกันภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

การป้องกันภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

การรักษาสุขภาพโดยรวมที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ มีส่วนสำคัญในการป้องกันหรือลดความเสี่ยงของภาวะ (ED) เคล็ดลับทั่วไปในการดูแลตนเองเพื่อส่งเสริมสุขภาพทางเพศที่ดีมีดังนี้

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • จัดการความเครียด
  • อย่าปล่อยตัวให้อ้วน
  • เลิกสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
  • การตรวจสุขภาพเป็นประจำ

วิธีรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

วิธีรักษาภาวะ (ED) มีทั้งแบบใช้ยาและใช้อุปกรณ์ช่วย ดังนี้

  1. การบำบัดด้วยยา

  • ยาในกลุ่มยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ Phosphodiesterase Type 5 (PDE5) ได้แก่ Sildenafil (Viagra), Tadalafil (Cialis), Vardenafil (Levitra), Avanafil (Stendra)
  • ยาอัลพรอสตาดิล (Alprostadil) มีคุณสมบัติช่วยขยายหลอดเลือด มีจำหน่ายทั้งชนิดยาฉีด ยาเม็ด และยาเหน็บ
  • การบำบัดด้วยฮอร์โมนทดแทน Testosterone Replacement Therapy (TRT) เป็นทางเลือกที่อาจพิจารณา โดยเฉพาะเมื่อพ้นวัย 40 ปีไปแล้ว
  1. การบำบัดด้วยอุปกรณ์ช่วยเหลือ

  • อุปกรณ์สุญญากาศ Vacuum Erection Devices (VED) เป็นกระบอกสุญญากาศ ใช้เพื่อดึงเลือดเข้าสู่อวัยวะเพศชาย ทำให้เกิดการแข็งตัว
  • ห่วงหรือสายรัดอวัยวะเพศชาย จะถูกใช้บริเวณโคนขององคชาตเพื่อรักษาการแข็งตัว
  1. การรักษาด้วยวิธีผ่าตัด

  • การปลูกถ่ายอวัยวะเพศชาย เกี่ยวข้องกับการใส่อุปกรณ์ที่ทำให้พองหรืออ่อนตัวลงในองคชาต เพื่อควบคุมการแข็งตัวของน้องชายได้ด้วยตนเอง
  • ผ่าตัดใส่แกนองคชาติเทียม เป็นวิธีที่แพทย์ใช้เมื่อรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ ไม่ได้ผล ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

นอกจากวิธีรักษาภาวะ ED ที่กล่าวมาข้างต้น ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวล้ำไปไกล ก่อเกิดเป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เข้ามาช่วยรักษาและฟื้นฟูภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้มีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรม Shockwave หรือโปรแกรม P-Shot PRP ข้อดีคือพักฟื้นไม่นาน แผลเล็ก ทำเสร็จสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เหมาะกับผู้ที่ไม่อยากรับประทานยา หรือรักษาด้วยการกินยาแล้วผลลัพธ์ไม่ดีขึ้น *ผลลัพธ์ของการรักษาขึ้นอยู่กับความหนักเบาของอาการคนไข้ในแต่ละคน

 

พญ. ธนวรรณ ศิริสุข

พญ. ธนวรรณ ศิริสุข
(คุณหมอหนึ่ง)

สรุป

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือ ED หากรู้เท่าทันถึงต้นเหตุของปัญหาเสียแต่เนิ่น ๆ มีการพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยอย่างละเอียด และพิจารณาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม สามารถรักษาและฟื้นฟูอย่างได้ผล ตั้งแต่ผู้ที่มีปัญหาเพียงเล็กน้อย ไปจนถึงผู้ที่มีอาการรุนแรง GENITIQUE CLINIC ยินดีเป็นพื้นที่ปลอดภัย ให้กับคนไข้ที่มีปัญหา พร้อมให้คำแนะนำและแนวทางการรักษาอย่างปลอดภัย เพราะที่นี่คือคลินิกความงามจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะ ดำเนินงานโดยสูตินรีแพทย์เฉพาะทาง ดูแลด้านความงามจุดซ่อนเร้นและสุขภาพเพศ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อพูดคุยและปรึกษากับทีมแพทย์เฉพาะทางดูแลจุดซ่อนเร้นผู้ชายได้โดยตรงที่หมายเลขโทรศัพท์ 062-924-4966 หรือ Line: @genitiqueclinic เรายินดีให้บริการอย่างใกล้ชิดทุกเคสค่ะ

บทความน่าสนใจ

Picture of แพทย์หญิง ธนวรรณ ศิริสุข

แพทย์หญิง ธนวรรณ ศิริสุข

Global Speaker and Trainer in Aesthetic Gynecology แพทย์ผู้สอนงานประชุมวิชาการ ทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก และ American Board of Cosmetic Gynecology, U.S.A. (คนแรกของไทย)

บทความใหม่

ค้นหาข้อมูล

บริการของเรา