ออกัสซั่มคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร
การถึงจุดสุดยอดเป็นประสบการณ์ทางสรีรวิทยาและอารมณ์ทางธรรมชาติที่ลึกซึ้งซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อความเป็นอยู่ที่ดี ของมนุษย์ นอกเหนือจากความรู้สึกพึงพอใจทางเพศแล้ว การถึงจุดสุดยอดหรือ “ออกัสซั่ม” (Orgasm) ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจมากมายอีกด้วย บทความนี้จะมาเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบทบาทของออกัสซั่มในการเชื่อมโยงความสัมพันธ์และความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ รวมถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อประสบการณ์การถึงจุดสุดยอดของแต่ละบุคคล เช่น อายุ ปัญหาสุขภาพ และสภาวะทางจิตใจ รายละเอียดจะมีอะไรบ้างตามมาดูกันเลยค่ะ
ออกัสซั่มมีข้อดีต่อสุขภาพอย่างไร
การถึงจุดสุดยอดหรือออกัสซั่มนอกจากเพิ่มความนับถือตนเอง และส่งเสริมความเข้าใจที่ลึกซึ้งด้านความสัมพันธ์แล้วยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้านดังต่อไปนี้
1. บรรเทาความเครียดและเพิ่มอารมณ์
การถึงจุดสุดยอดจะกระตุ้นให้มีการหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphins) ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขที่ทำให้ร่างกายมีอารมณ์ดีขึ้นตามธรรมชาติ ฮอร์โมนเหล่านี้ต่อสู้กับความเครียด ความวิตกกังวล และแม้แต่ภาวะซึมเศร้าเล็กน้อยได้ ส่งเสริมความรู้สึก
ผ่อนคลายและความเป็นอยู่ที่ดี
2. ช่วยลดความเจ็บปวด
สารเอนดอร์ฟินที่หลั่งออกมาในระหว่างออกัสซั่ม จะทำหน้าที่เป็นยาระงับความเจ็บปวดตามธรรมชาติ ซึ่งอาจบรรเทาอาการปวดหัว อาการปวดประจำเดือน และแม้แต่อาการปวดข้อได้
3. ช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น
ค็อกเทลฮอร์โมนที่หลั่งออกมาหลังการถึงจุดสุดยอด รวมทั้งออกซิโทซินและโพรแลกติน ช่วยส่งเสริมการผ่อนคลายและอาการง่วงนอน ทำให้หลับได้ง่ายขึ้นและหลับได้สบายขึ้น (อ้างอิง : academic.oup)
4. ส่งเสริมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดที่ดีขึ้น (H3)
การถึงจุดสุดยอดจะเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและการไหลเวียนโลหิต ถือเป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอแบบย่อที่อาจช่วยให้สุขภาพหัวใจดีขึ้นในระยะยาว
5. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน (H3)
การศึกษาบางกรณีแสดงให้เห็นว่าการถึงจุดสุดยอดอาจช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันโดยเพิ่มระดับคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สามารถเพิ่มการทำงานของภูมิคุ้มกันได้
6. ความใกล้ชิดและความผูกพันที่เพิ่มขึ้น (H3)
การถึงจุดสุดยอดโดยเฉพาะการถึงจุดสุดยอดร่วมกับคู่รัก จะช่วยส่งเสริมการหลั่งของฮอร์โมนออกซิโทซิน ซึ่งมักเรียกกันว่า “ฮอร์โมนแห่งความรัก” ออกซิโทซินส่งเสริมความรู้สึกเชื่อมโยงทางอารมณ์ ความไว้วางใจ และความผูกพันลึกซึ้ง
7. เพิ่มการยอมรับในตนเอง (H3)
การสัมผัสกับความสุขและความพึงพอใจทางเพศสามารถส่งเสริมการยอมรับในตนเองและภาพลักษณ์ของร่างกาย ทำให้มี
ความมั่นใจและความเป็นอยู่โดยรวมที่ดีมากขึ้น
8. การเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับอุ้งเชิงกราน (H3)
การถึงจุดสุดยอดเกี่ยวข้องกับการหดตัวของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ซึ่งสามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อเหล่านี้ ช่วยปรับปรุงการควบคุมกระเพาะปัสสาวะและการทำงานทางเพศให้ดีขึ้น (อ้างอิง : pubmed.ncbi.nlm.nih.gov)
9. การลดความเสี่ยงของมะเร็ง
การวิจัยบางกรณีระบุว่าการหลั่งบ่อย ๆ อาจช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชายได้
10. ความเป็นอยู่โดยรวม
ประโยชน์ทางกายภาพและอารมณ์จากการถึงจุดสุดยอด ทำให้รู้สึกมีความสุข ซึ่งช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตได้เป็นอย่างดี
ออกัสซั่มมีกี่ประเภท
ในทางการแพทย์ไม่มีการระบุประเภทของการถึงจุดสุดยอดหรือ “ออกัสซั่ม” (Orgasm) ที่แน่นอน เนื่องจากประสบการณ์
การถึงจุดสุดยอดนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและแตกต่างกันอย่างมาก อย่างไรก็ตามการถึงจุดสุดยอดมักจะแบ่งประเภทตามจุดหรือตำแหน่งของการถูกกระตุ้นดังนี้
การถึงจุดสุดยอดที่คลิตอริส : เกิดจากการกระตุ้นคลิตอริสโดยตรง ซึ่งมีความไวสูงเนื่องจากมีปลายประสาทจำนวนมากอยู่บริเวณนี้
การถึงจุดสุดยอดทางช่องคลอด : เชื่อกันว่าเกิดจากการกระตุ้นจุด (G-spot) ซึ่งเป็นบริเวณที่อยู่บนผนังด้านหน้าของช่องคลอด
การถึงจุดสุดยอดแบบผสมผสาน : ต้องมีการกระตุ้นทั้งคลิตอริสและจุด (G-spot) พร้อม ๆ กัน ซึ่งมักจะนำไปสู่ประสบการณ์ที่เข้มข้นและหลากหลายมากขึ้น
จากการศึกษาเมื่อปี 2016 พบว่าผู้หญิงร้อยละ 54 สามารถถึงจุดสุดยอดด้วยการกระตุ้นคลิตอริสและช่องคลอด ขณะที่ร้อยละ 34 ถึงจุดสุดยอดด้วยการกระตุ้นคลิตอริสเพียงอย่างเดียว และร้อยละ 6 ถึงจุดสุดยอดด้วยการกระตุ้นช่องคลอดเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า การออกัสซั่มสามารถเกิดจากการกระตุ้นบริเวณอื่น ๆ เช่น หัวนม หู คอ ฯลฯ สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และสิ่งที่ให้ความรู้สึกพึงพอใจและนำไปสู่การถึงจุดสุดยอดอาจแตกต่างกันอย่างมาก การสำรวจการกระตุ้นประเภทต่าง ๆ และการสื่อสารแบบเปิดใจกับคู่รักสามารถช่วยให้แต่ละคนค้นพบสิ่งที่เหมาะกับตนเองที่สุดได้
ออกัสซั่มอาการของผู้หญิงและผู้ชายเป็นอย่างไร
ประสบการณ์การถึงจุดสุดยอดสามารถอธิบายได้ 3 ระดับ แม้ว่าความรู้สึกเฉพาะเจาะจงและความเข้มข้นของความรู้สึกเหล่านี้อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคลก็ตาม นี่คือภาพรวมทั่วไปเกี่ยวกับความรู้สึกในช่วงเริ่มต้นและสิ้นสุดของการถึงจุดสุดยอดสำหรับผู้หญิงและผู้ชาย
● ระยะตื่นตัว
ผู้หญิง : เราเรียกระยะนี้ว่าระยะกระตุ้นทางอารมณ์ เป็นระยะที่มีอัตราการเต้นของหัวใจและหายใจเร็วขึ้น หลอดเลือดบริเวณน้องสาวขยายตัว มีเลือดไหลผ่านมากขึ้น ช่องคลอดมีน้ำหล่อลื่่นเยอะและบวม
ผู้ชาย : เลือดจะไหลเวียนไปเลี้ยงองคชาตมากขึ้น ทำให้องคชาตแข็งตัวและใหญ่ขึ้น ขณะที่ลูกอัณฑะจะค่อย ๆ หดตัวเข้าไปในถุงอัณฑะ
● ระยะก่อนออกัสซั่ม
ผู้หญิง : ระยะนี้เป็นระยะที่เลือดสูบฉีดมากขึ้น หัวนมแข็งตัวน้อยลง ขณะที่คลิตอริสจะไวต่อความรู้สึกและหดตัวอยู่ภายใต้หนังหุ้มคลิตอริส
ผู้ชาย : ระยะนี้เลือดจะไหลไปเลี้ยงองคชาตมากขึ้น อัตราการเต้นหัวใจและหายใจเร็วขึ้น ความดันโลหิตเพิ่ม องคชาตและอัณฑะใหญ่ขึ้น กล้ามเนื้อบริเวณต้นขาและก้นจะตึง
● ระยะออกัสซั่ม
ผู้หญิง : มีอาการหดเกร็งกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานเป็นจังหวะ ๆ มาพร้อมกับความรู้สึกรื่นรมย์ อบอุ่น และผ่อนคลายรู้สึกมีความสุขหรือรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วทั้งร่างกาย สำหรับการออกัสซั่มของผู้หญิงอาจใช้เวลานานกว่าผู้ชายเฉลี่ยประมาณ 20-35 นาที
ผู้ชาย : การขับอสุจิออกจากท่อปัสสาวะ พร้อมกับการหดตัวเป็นจังหวะของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน มาพร้อมกับความรู้สึกเป็นสุขอย่างเข้มข้น
ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงคำอธิบายทั่วไป ซึ่งประสบการณ์ของแต่ละบุคคลอาจไม่เหมือนกัน บางคนอาจประสบกับระยะที่ชัดเจนกว่า ในขณะที่บางคนอาจมีประสบการณ์ที่ลื่นไหลกว่าและไม่ชัดเจนนัก นอกจากนี้ความเข้มข้นและระยะเวลาของการถึงจุดสุดยอดก็อาจแตกต่างกันอย่างมากเช่นกัน
ปัญหาที่มีผลต่อการออกัสซั่มมีอะไรบ้าง
ปัญหาด้านสุขภาพและอารมณ์อาจส่งผลต่อกระบวนการออกัสซั่มได้ดังนี้
- ไม่มีความต้องการทางเพศ หรือภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
- การทะเลาะหรือมีปัญหาด้านความสัมพันธ์ระหว่างคู่ของคุณ
- ความเบื่อหน่ายต่อกิจกรรมทางเพศ
- เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศ (ข่มขืน)
- ความเครียด ความเหนื่อยล้าจากการทำงาน หรือมีภาวะซึมเศร้า
- ความรู้สึกเชิงลบต่าง ๆ เช่น กลัวเจ็บ
- ความรู้สึกเขินอายโดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์เป็นครั้งแรก
ปัญหาที่ส่งผลต่อการถึงจุดสุดยอดในผู้หญิง
- ช่องคลอดแห้ง จากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือเข้าสู่ช่วงหมดประจำเดือน หรือตั้งครรภ์
- การใช้ยารักษาโรคซึมเศร้า เช่น พาร็อกซีทีน, เซอร์ทาลีน, ฟลูออกซีทีน
- ป่วยเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ
- มีอาการปวดกระดูกอุ้งเชิงกราน
- ความเสียหายต่อเส้นประสาท เช่น บาดเจ็บที่ไขสันหลัง โรคปลอกประสาทอักเสบ
ปัญหาที่ส่งผลต่อการถึงจุดสุดยอดในผู้ชาย
- การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (นกเขาไม่ขัน)
- ไม่มีความต้องการทางเพศ อันเนื่องจากปัญหาสุขภาพต่าง ๆ
- ปัญหาการหลั่งอสุจิ เช่น หลั่งเร็ว หลั่งช้า
อายุมีผลกับการถึงจุดสุดยอดหรือไม่
ในทางการแพทย์อายุสามารถส่งผลต่อการถึงจุดสุดยอดได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงด้วยปัจจัยดังต่อไปนี้
ผู้หญิง
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน : วัยหมดประจำเดือนซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่ออายุประมาณ 50 ปี ส่งผลให้ระดับเอสโตรเจนลดลง ซึ่งอาจทำให้ช่องคลอดแห้ง เนื้อเยื่อช่องคลอดบางลง และความไวต่อความรู้สึกของคลิตอริสลดลง ส่งผลให้การถึงจุดสุดยอดทำได้ยากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงของระบบไหลเวียนโลหิต : การไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณอุ้งเชิงกราน อาจลดลงตามอายุ ส่งผลต่อ
ความไวต่อการถูกกระตุ้นของเส้นประสาท
สภาวะทางการแพทย์ : สภาวะต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และความผิดปกติของระบบประสาท อาจส่งผลต่อการทำงานทางเพศและการถึงจุดสุดยอดได้
ผู้ชาย
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน : ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจะค่อย ๆ ลดลงตามอายุ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะความต้องการทางเพศลดลง ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ และการเปลี่ยนแปลงของการถึงจุดสุดยอด
การเปลี่ยนแปลงของระบบไหลเวียนโลหิต : การไหลเวียนเลือดไปยังองคชาตที่ลดลง อาจทำให้การแข็งตัวและการรักษาการแข็งตัวขององคชาตยากขึ้น ส่งผลต่อความสามารถในการถึงจุดสุดยอด
สภาวะทางการแพทย์ : เช่นเดียวกับผู้หญิง สภาวะต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และความผิดปกติของระบบประสาท ก็สามารถส่งผลกระทบต่อการทำงานทางเพศและการถึงจุดสุดยอดได้
แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับอายุอาจส่งผลต่อการถึงจุดสุดยอดได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าประสบการณ์ทางเพศที่น่าพอใจนั้นเป็นไปไม่ได้ ผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยยังคงเพลิดเพลินกับประสบการณ์ทางเพศได้อย่างไม่มีปัญหา การสื่อสารอย่างเปิดเผยกับคู่ครอง และการจัดการกับภาวะทางการแพทย์พื้นฐานต่าง ๆ สามารถช่วยรักษาความพึงพอใจทางเพศได้เมื่ออายุมากขึ้น
ถึงจุดสุดยอดบ่อยอันตรายไหม
โดยธรรมชาติแล้วการถึงจุดสุดยอดบ่อย ๆ ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตามในบางรายอาจเกิดอาการระคายเคืองอวัยวะเพศอันเนื่องมาจากการเสียดสีบ่อยครั้ง ซึ่งการเสียดสีบ่อยเกินไปอาจทำให้องคชาตหรือเยื่อบุช่องคลอดเป็นแผลถลอก เกิดอาการแสบ เจ็บปวด ขอแนะนำให้ใช้สารหล่อลื่นเป็นตัวช่วย
กล่าวโดยสรุปคือประสบการณ์ถึงจุดสุดยอด “ออกัสซั่ม” (Orgasm) ให้ทั้งความสุขทางใจและประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แม้ว่าประสบการณ์ของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสรีรวิทยา จิตวิทยาและปัจจัยที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้การมีเพศสัมพันธ์ไม่ถึงจุดสุดยอด จะช่วยให้แต่ละคนสามารถรู้เท่าทัน รู้จักแก้ไขป้องกัน รวมถึงสื่อสารกับคู่ครองได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น กุญแจสำคัญในการบรรลุความพึงพอใจทางเพศ การขจัดความเข้าใจผิดและส่งเสริมข้อมูลที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณเข้าใจเรื่องการถึงจุดสุดยอดและบทบาทสำคัญในการถึงจุดสุดยอดได้ดีขึ้นและเป็นบวกมากขึ้น