ตกขาวสีน้ำตาล เกิดจากอะไร

ตกขาวสีน้ำตาล เกิดจากอะไร? สัญญาณอันตรายที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม

การพบว่าตัวเองมีตกขาวสีน้ำตาลอาจทำให้ผู้หญิงหลายคนรู้สึกกังวลใจและไม่สบายใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ค่ะ โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการนี้มักเกิดจากการที่ร่างกายขับเลือดเก่าที่ตกค้างจากรอบเดือนก่อนหน้าออกมา ซึ่งไม่เป็นอันตราย แต่ในขณะเดียวกัน ตกขาวที่มีเลือดปนก็อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะผิดปกติบางอย่างที่ควรได้รับการใส่ใจ การทำความเข้าใจสาเหตุที่แท้จริงจะช่วยให้เราดูแลสุขภาพของตัวเองได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที ที่ GENITIQUE CLINIC เราเข้าใจทุกความกังวลของผู้หญิง บทความนี้จะมาไขทุกข้อสงสัยว่าตกขาวสีน้ำตาลเกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่ และเมื่อไหร่ที่ควรมาพบแพทย์ค่ะ

สารบัญ

ตกขาวสีน้ำตาลเกิดจากอะไรได้บ้าง? 10 สาเหตุที่พบบ่อย

ภาวะตกขาวสีน้ำตาลสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่กระบวนการทางสรีรวิทยาปกติไปจนถึงสัญญาณของโรคที่ต้องได้รับการรักษา มาดูกันว่ามีสาเหตุใดบ้างที่เป็นไปได้

  1. เลือดเก่าตกค้าง: เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด คือเลือดประจำเดือนเก่าที่ไหลออกมาไม่หมดในช่วงท้ายของรอบเดือน เมื่อผสมกับตกขาวจึงเห็นเป็นสีน้ำตาล
  2. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในวัยหมดประจำเดือน (วัยทอง): เมื่อระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ผนังช่องคลอดจะบางลงและอาจมีเลือดซึมออกมาปนกับตกขาวได้ง่ายขึ้น
  3. เลือดออกจากการฝังตัวของตัวอ่อน: ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ (ประมาณ 7-14 วันหลังปฏิสนธิ) อาจมีเลือดออกเล็กน้อยขณะที่ตัวอ่อนฝังตัวกับผนังมดลูก หรือที่เรียกกันว่า “เลือดล้างหน้าเด็ก”
  4. เลือดออกช่วงตกไข่: ผู้หญิงบางคนอาจมีเลือดออกเล็กน้อยในช่วงกลางรอบเดือนซึ่งเป็นช่วงตกไข่ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
  5. การติดเชื้อในช่องคลอดและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์: ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย, เชื้อรา หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน, เริม อาจทำให้เกิดการอักเสบและมีเลือดปนออกมาได้
  6. ความผิดปกติบริเวณปากมดลูก: ติ่งเนื้อที่ปากมดลูก หรือภาวะปากมดลูกอักเสบ อาจทำให้มีเลือดออกผิดปกติได้
  7. เนื้องอกในมดลูกหรือติ่งเนื้อในโพรงมดลูก: แม้ส่วนใหญ่จะไม่ใช่มะเร็ง แต่ก็อาจเป็นสาเหตุของเลือดออกกะปริบกะปรอยได้
  8. ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด: เช่น ยาคุมกำเนิด หรือการบำบัดด้วยฮอร์โมน อาจทำให้มีเลือดออกในช่วงแรกที่ใช้ยา ซึ่งมักจะหายไปเอง แต่หากเป็นนานกว่านั้นควรปรึกษาแพทย์
  9. สัญญาณความผิดปกติของการตั้งครรภ์: ในหญิงตั้งครรภ์ ตกขาวสีน้ำตาลอาจเป็นสัญญาณของภาวะแท้งคุกคาม, ภาวะรกเกาะต่ำ หรือการตั้งครรภ์นอกมดลูก ซึ่งควรรีบพบแพทย์ทันที
  10. ความเครียด: ความเครียดสะสมสามารถส่งผลต่อสมดุลฮอร์โมนและทำให้รอบเดือนมาผิดปกติ ซึ่งอาจทำให้มีเลือดออกกะปริบกะปรอยได้

ตกขาวสีน้ำตาลร่วมกับอาการคันน้องสาว

ตกขาวสีน้ำตาลร่วมกับอาการคัน เกิดจากอะไร?

โดยปกติแล้วตกขาวปกติจะไม่ทำให้เกิดอาการคัน หากคุณมีตกขาวสีน้ำตาลและมีอาการคันร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณของภาวะต่อไปนี้

  • การติดเชื้อ: สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือการติดเชื้อราหรือแบคทีเรียในช่องคลอด ซึ่งมักทำให้ตกขาวมีลักษณะผิดปกติ มีกลิ่น และคัน
  • โรคผิวหนัง: โรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) หรือผิวหนังอักเสบ (Eczema) สามารถเกิดบริเวณอวัยวะเพศและทำให้เกิดอาการคันได้
  • การระคายเคือง: อาจเกิดจากการแพ้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด, สบู่, น้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือแม้แต่การเสียดสีจากเสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป รวมถึงการกำจัดขนที่ไม่ถูกวิธี

คันอวัยวะเพศจากการติดเชื้อ

  • การติดเชื้อราในช่องคลอด
  • การติดเชื้อแบคทีเรีย
  • การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หูด หรือเริมที่อวัยวะเพศ หนองในแท้ (Gonorrhea) หนองในเทียม (Chlamydia) เป็นต้น

คันอวัยวะเพศจากโรค

  • โรคมะเร็งปากช่องคลอด (Vulvar cancer)
  • โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)
  • โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema)

อาการคันที่ไม่ติดเชื้อ

  • การโกนขนน้องสาว ถอน แว็กซ์ขนบริเวณอวัยวะเพศ
  • ความเครียดที่มากจนเกินไป เครียดเรื้อรัง
  • ใส่เสื้อผ้าหรือชุดชั้นในที่รัดเกินไป
  • การระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด หรือผลิตภัณฑ์ดูแลจุดซ่อนเร้น

เฉลย! ตกขาวสีน้ำตาล ท้องไหม

ตกขาวมีสีน้ำตาลอาจเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ หรือที่เรียกว่า “เลือดล้างหน้าเด็ก” อาจมีตกขาวสีน้ำตาลในช่วง 7-14 วันแรก หลังไข่ที่ผสมกับน้ำอสุจิไปฝังตัวอยู่ที่มดลูก อันเป็นสาเหตุทำให้หลอดเลือดแตกออกและไหลปนมากับตกขาวได้

ตกขาวสีน้ำตาลเป็นกี่วันถึงจะหาย

ไม่สามารถบอกได้อย่างแน่ชัดว่า ตกขาวสีน้ำตาลจะหายได้เองหรือกี่วันหาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะสุขภาพของผู้หญิงในแต่ละคน หากมีปัญหาสุขภาพเป็นไปได้มากว่าจะกินระยะเวลานานกว่า 2 สัปดาห์ ในกรณีดังกล่าวจำเป็นต้องไปพบสูตินรีแพทย์ฯ เพื่อตรวจวินิจฉัย และหาวิธีรักษาที่เหมาะสมต่อไป

วิธีดูแลตัวเองและป้องกันการเกิดตกขาวผิดปกติ

การดูแลสุขอนามัยที่ดีเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันปัญหาสุขภาพของผู้หญิง

  • รักษาสุขอนามัยอย่างถูกวิธี: ทำความสะอาดภายนอกด้วยน้ำเปล่าหรือสบู่อ่อนๆ วันละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอ หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอดเพราะจะทำลายสมดุลแบคทีเรียที่ดี
  • เลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม: สวมกางเกงชั้นในที่ทำจากผ้าฝ้ายและไม่รัดแน่นจนเกินไป เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ลดความอับชื้น
  • จัดการความเครียด: พักผ่อนให้เพียงพอและหาวิธีผ่อนคลายความเครียด เพราะความเครียดส่งผลโดยตรงต่อสมดุลฮอร์โมน
  • มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย: การใช้ถุงยางอนามัยช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้
  • ตรวจสุขภาพประจำปี: การตรวจภายในและคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำจะช่วยให้พบความผิดปกติตั้งแต่เนิ่นๆ

ตกขาวสีน้ำตาล ป้องกันได้อย่างไร

รักษาสุขอนามัยช่องคลอดที่ดี

  • ทำความสะอาดด้วยการล้างบริเวณอวัยวะเพศทุกวันด้วยน้ำอุ่นและสบู่อ่อน ๆ ที่ไม่มีกลิ่น หลีกเลี่ยงการสวนล้างเพราะอาจทำลายสมดุลตามธรรมชาติของแบคทีเรียในช่องคลอดได้
  • เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ ในช่วงมีประจำเดือน เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย

จัดการรอบประจำเดือน

  • ติดตามรอบเดือนของคุณเป็นประจำ ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยให้สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าว่าจะเกิดการตกขาวเมื่อใด
  • การใช้ยาคุมกำเนิดอย่างเหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเลือดออกผิดปกติ

ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์

  • รับประทานอาหารที่สมดุล สามารถช่วยควบคุมรอบประจำเดือนของคุณได้ รวมทั้งกินอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก วิตามิน และแร่ธาตุ
  • รักษาความชุ่มชื้นด้วยการดื่มน้ำปริมาณมากพอ เพื่อช่วยล้างสารพิษออกจากร่างกาย
  • หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพราะการออกกำลังกายเป็นประจำสามารถช่วยรักษาสมดุลของฮอร์โมนได้

จัดการความเครียด

  • ความเครียดในระดับสูง อาจส่งผลต่อรอบประจำเดือนได้ ฝึกเทคนิคการลดความเครียดด้วยการทำสมาธิ ทำกิจกรรมที่ชอบ หางานอดิเรคทำ หรือการฝึกหายใจเข้าลึก ๆ ทั้งหมดล้วนช่วยบรรเทาความเครียดได้

ดูแลรักษาทางการแพทย์

  • การตรวจสุขภาพเป็นประจำ เช่น การตรวจทางนรีเวช จะช่วยให้พบสภาวะที่ซ่อนอยู่ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
  • หากพบอาการติดเชื้อในช่องคลอด (คันช่องคลอด แสบร้อน กลิ่นผิดปกติ) ให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาในทันที
  • หากสงสัยว่าฮอร์โมนไม่สมดุล ให้ปรึกษากับแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งสามารถแนะนำยาหรือการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เพื่อช่วยควบคุมฮอร์โมนของคุณได้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับตกขาวสีน้ำตาล

ตกขาวสีน้ำตาลคืออะไร?

  • ตกขาวสีน้ำตาลเป็นภาวะที่สารคัดหลั่งจากช่องคลอดมีสีออกน้ำตาล ซึ่งอาจเกิดจากการปนเปื้อนของเลือดเก่าในมดลูกหรือภาวะฮอร์โมนที่ไม่สมดุล

ตกขาวสีน้ำตาลเป็นอันตรายหรือไม่?

  • ในบางกรณีอาจเป็นเรื่องปกติ เช่น ช่วงก่อนหรือหลังประจำเดือน อย่างไรก็ตาม หากมีอาการร่วม เช่น ปวดท้องน้อยหรือมีกลิ่นผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์

ตกขาวสีน้ำตาลเกิดจากสาเหตุอะไร?

  • อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น เลือดตกค้างในมดลูก การตั้งครรภ์ ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ การติดเชื้อ หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

ควรทำอย่างไรเมื่อพบตกขาวสีน้ำตาล?

  • ควรสังเกตอาการร่วม เช่น ปวดท้อง มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือประจำเดือนมาช้า หากมีอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย

ตกขาวสีน้ำตาลในหญิงตั้งครรภ์ต้องกังวลหรือไม่?

  • ในหญิงตั้งครรภ์อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน แต่ถ้ามีอาการเลือดออกมากหรือปวดท้อง ควรรีบพบแพทย์ทันที

สรุป ตกขาวสีน้ำตาล สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

ทำความเข้าใจสาเหตุที่แท้จริงของอาการตกขาวสีน้ำตาล เป็นสิ่งสำคัญในการพิจารณาการรักษาสุขภาพการเจริญพันธุ์โดยรวมที่เหมาะสม หากตกขาวมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวด คัน ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็นรุนแรง หรือเป็นต่อเนื่องยาวนานผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อทำการประเมินเพิ่มเติม เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนหรืออาการของโรคบางอย่างที่รุนแรงได้ อย่าปล่อยให้ปัญหาสุขภาพทางเพศมาบ่อนทำลายคุณภาพชีวิต Genitique Clinic ยินดีเป็นพื้นที่ปลอดภัย เพราะที่นี่คือคลินิกความงามจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะ ดำเนินงานโดยสูตินรีแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ความงามทางนรีเวชและสุขภาพทางเพศ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้โดยตรงที่หมายเลขโทรศัพท์ 062-924-4966 หรือ Line: @Genitiqueclinic เรายินดีให้บริการอย่างใกล้ชิดทุกเคสค่ะ

บทความน่าสนใจ

Picture of แพทย์หญิง ธนวรรณ ศิริสุข

แพทย์หญิง ธนวรรณ ศิริสุข

สูตินรีแพทย์เฉพาะทาง ดูแลด้านความงามจุดซ่อนเร้นและสุขภาพเพศ
Gynecologist, providing care services in Aesthetic Gynecology and sexology, Global Speaker

บทความใหม่

ค้นหาข้อมูล

บริการของเรา