นกเขาไม่ขัน ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เกิดจากอะไร รักษาได้หรือไม่

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือที่เรารู้จักกันดีก็คืออาการ นกเขาไม่ขัน เสื่อมสมรรถภาพ ถือเป็นปัญหาใหญ่ของผู้ชายทุกคนทำให้ขาดความมั่นใจ ไม่มีความสุขทางเพศ สูญเสียความสัมพันธ์กับคู่รัก จะเห็นได้ว่าเรื่องความพึงพอใจทางเพศ ปัญหาหลั่งเร็ว มีผลอย่างมากต่อความสุขในการดำเนินชีวิต ปัจจุบันไม่ว่าคุณจะอายุน้อย หรืออายุมากแล้วก็ตาม ย่อมมีโอกาสเกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ทั้งสิ้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน ผู้ชายหลายคนต้องต่อสู้กับภาวะดังกล่าวมานาน พยายามหาวิธีรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพโดยขาดความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้อง บทความนี้จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับอาการน้องชายไม่แข็งตัว อาการหลั่งเร็ว คืออะไร เกิดขึ้นจากสาเหตุใด ใครมีความเสี่ยงบ้าง พร้อมวิธีรักษามีกี่ทางมาหาคำตอบไปพร้อมกันค่ะ

นกเขาไม่ขัน คืออะไร

อาการนกเขาไม่ขัน หรือน้องชายไม่แข็งตัว หรือ Erectile Dysfunction (ED) คือ ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศของผู้ชาย โดยที่อวัยวะเพศไม่สามารถรักษาระดับการแข็งตัวต่อการมีเพศสัมพันธ์ได้ หรือไม่แข็งตัวมากพอที่จะสอดใส่เข้าไปในช่องคลอดฝ่ายหญิงได้ แม้ว่าจะมีอารมณ์ทางเพศก็ตาม นอกจากนี้ภาวะดังกล่าวยังสามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพทางเพศอื่น ๆ เช่น การหลั่งเร็วหรือช้า ความต้องการทางเพศลดลง ปัญหาดังกล่าวนี้เกิดขึ้นกับผู้ชาย 1 ใน 5 และสามารถเกิดขึ้นได้ทุกวัย แต่ส่วนใหญ่พบในผู้ชายอายุมากกว่า 40 ปีได้ถึง 50 % สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักว่าหากอาการเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควรต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านสุขภาพทางเพศเพื่อวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม

นกเขาไม่ขัน แบ่งอาการได้กี่ระดับ

ภาวะภาวะเสื่อมสมรรถภาพ หรือหย่อนสมรรถภาพทางเพศ Erectile Dysfunction (ED) สามารถแบ่งได้เป็นระดับหรือประเภทต่าง ๆ ตามความรุนแรง การจำแนกประเภทนี้ ช่วยให้แพทย์เฉพาะทางด้านสุขภาพสามารถกำหนดแนวทางการรักษาที่เหมาะสมได้ ระบบการจำแนกประเภทที่ใช้กันทั่วไประบบหนึ่งอิงตาม International Index of Erectile Function (IIEF) IIEF แบ่งประเภทของ ED ออกเป็น 5 ระดับ ดังนี้

  1. สมรรถภาพทางเพศปกติ : ผู้ชายในกลุ่มนี้ไม่มีปัญหาเรื่องการแข็งตัวของอวัยวะเพศ หรือคงไว้ซึ่งการแข็งตัวของอวัยวะเพศ สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้จนสำเร็จทุกครั้ง
  2. หย่อนสมรรถภาพทางเพศเล็กน้อย : ผู้ชายในกลุ่มนี้อาจประสบปัญหาเป็นครั้งคราวในการมีเพศสัมพันธ์จนเสร็จกิจ หรือรักษาระดับการแข็งตัวของอวัยวะเพศ อย่างไรก็ตามการทำงานทางเพศโดยทั่วไปถือว่าน่าพอใจ
  3. หย่อนสมรรถภาพทางเพศเล็กน้อยถึงปานกลาง : ผู้ชายในกลุ่มนี้อาจมีปัญหาเรื่องการแข็งตัวของอวัยวะเพศบ่อยขึ้น และสมรรถภาพทางเพศมีความบกพร่องมากขึ้น
  4. หย่อนสมรรถภาพทางเพศปานกลาง : ผู้ชายในกลุ่มประสบกับปัญหาสมรรถภาพทางเพศลดลงอย่างเห็นได้ชัด การแข็งตัวของอวัยวะเพศกลายเป็นเรื่องยากมากขึ้น
  5. เสื่อมสมรรถภาพทางเพศขั้นรุนแรง : ผู้ชายในกลุ่มนี้ประสบปัญหาอย่างรุนแรงและต่อเนื่องในการแข็งตัวหรือรักษาการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ซึ่งทำให้ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้เลย

นกเขาไม่ขัน เกิดจากสาเหตุใด

อาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (ED) นกเขาไม่ขันอาจเป็นผลมาจากปัจจัยทางร่างกาย จิตใจ และรูปแบบการดำเนินชีวิตรวมกัน ดังนี้

  • ปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือด

ปัญหาเกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศชาย ไปขัดขวางความสามารถในการแข็งตัว เช่น ภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง ความดันโลหิตสูง อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดได้

  • ความผิดปกติทางระบบประสาท

สภาวะที่ส่งผลต่อระบบประสาท เช่น โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง โรคพาร์กินสัน และการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง อาจรบกวนการสื่อสารระหว่างสมองและอวัยวะเพศชาย ทำให้เกิดอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

  • ความไม่สมดุลของฮอร์โมน

ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญของเพศชายอยู่ในระดับต่ำ สามารถส่งผลต่อภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ ส่วนใหญ่แล้วความไม่สมดุลของฮอร์โมนมักเกี่ยวข้องกับความชรา

  • ปัจจัยทางจิตวิทยา

ความเครียด ความวิตกกังวล อาการซึมเศร้า และปัญหาทางจิตอื่น ๆ อาจส่งผลเสียต่อสมรรถภาพทางเพศได้ ความวิตกกังวลด้านประสิทธิภาพที่เกี่ยวข้องกับความพึงพอใจของคู่ครอง หรือกลัวความล้มเหลวก็สามารถส่งผลได้เช่นกัน

 

  • การใช้ยาบางชนิด

ยาบางชนิด เช่น ยาแก้ซึมเศร้า ยาลดความดันโลหิต ยากล่อมประสาท ยาฮอร์โมน และยาที่ใช้รักษาภาวะต่อมลูกหมาก อาจมีผลข้างเคียงที่ขัดขวางการทำงานของอวัยวะเพศได้

  • ปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์

การเลือกวิถีชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป การขาดการออกกำลังกาย และการรับประทานอาหารที่ไม่ดี สามารถส่งผลต่อภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้

  • โรคเรื้อรัง

โรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคความดันโลหิต โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดตีบ โรคไต โรคตับ โรคเบาหวาน โรคระบบต่อมไร้ท่อ อาจส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม และส่งผลต่อภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้เช่นกัน

  • การบาดเจ็บหรือการผ่าตัด

การบาดเจ็บที่บริเวณอุ้งเชิงกราน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเกี่ยวข้องกับความเสียหายต่อเส้นประสาทหรือหลอดเลือด อาจทำให้เกิดปัญหาการแข็งตัวของอวัยวะเพศได้ การผ่าตัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับต่อมลูกหมาก หรือกระเพาะปัสสาวะ ก็อาจมีผลต่อภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

  • ปัญหาความสัมพันธ์

ปัญหาในความสัมพันธ์ ปัญหาการสื่อสาร หรือความขัดแย้งที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข สามารถส่งผลต่อภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดความเครียดและความวิตกกังวล

สัญญาณของอาการ นกเขาไม่ขัน

สัญญาณเริ่มต้นของอาการ นกเขาไม่ขัน มีอะไรบ้าง

สัญญาณที่บ่งบอกว่าผู้ชายอาจกำลังประสบกับปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) ได้แก่:

  1. ความยากลำบากในการรักษาการแข็งตัวของอวัยวะเพศอย่างต่อเนื่อง หรือนกเขาไม่ขัน ระหว่างกิจกรรมทางเพศ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดของอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
  2. ความต้องการทางเพศลดลง ความสนใจหรือความปรารถนาในกิจกรรมทางเพศลดลงอย่างเห็นได้ชัด
  3. การแข็งตัวของอวัยวะเพศไม่เต็มที่ หรืออ่อนตัวเร็วกว่าที่ควร ไม่เพียงพอต่อการมีเพศสัมพันธ์จนเสร็จกิจได้
  4. ความรู้สึกทุกข์ทรมานทางจิตใจ ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศนำไปสู่ความเครียด ความวิตกกังวล ขาดความภาคภูมิใจในตนเอง
  5. อาการหลั่งเร็วหรือช้า ปัญหาเกี่ยวกับการหลั่งอาจเกิดขึ้นเร็วเกินไป หรือใช้เวลานาน ทั้งหมดอาจเกี่ยวข้องกับอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ด้วย

ใครที่มีความเสี่ยงเกิดภาวะนกเขาไม่ขันได้บ้าง

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) หรือ นกเขาไม่ขัน อาจเกิดขึ้นได้กับผู้ชายทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยบางประการที่เป็นตัวกระตุ้น หรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศก่อนเวลาอันควร ซึ่งมีดังนี้

  • ผู้สูงวัย

ความน่าจะเป็นอย่างแรกที่อาจก่อให้เกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ คือเรื่องของอายุที่มากขึ้น อย่างไรก็ตามผู้ชายสูงอายุจำนวนมาก ยังคงมีสมรรถภาพทางเพศที่แข็งแรงเป็นปกติ

  • ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง

ปัญหาสุขภาพบางอย่างสามารถส่งผลต่อภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน และความผิดปกติทางระบบประสาท สภาวะที่ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดหรือการทำงานของเส้นประสาท อาจส่งผลต่อความสามารถในการแข็งตัวของอวัยวะเพศและรักษาการแข็งตัวของอวัยวะเพศไว้ได้

  • ผู้ป่วยที่ต้องใช้ยาบางชนิด

ยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงทำให้เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เช่น ยาแก้โรคซึมเศร้า ยาลดความดันโลหิต ยากล่อมประสาท ยาฮอร์โมน และยาที่ใช้รักษาภาวะต่อมลูกหมาก อาจมีผลข้างเคียงที่ขัดขวางการทำงานของอวัยวะเพศได้

  • ผู้ที่มีพฤติกรรมชอบสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์

การเลือกวิถีชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป และการใช้ยา สามารถส่งผลต่อการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ นิสัยเหล่านี้อาจส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด ซึ่งมีผลต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศ

  • ผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิต

ความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า ปัญหาสุขภาพจิตอื่น ๆ รวมถึงปัญหาความสัมพันธ์กับคู่รัก ความวิตกกังวลด้านประสิทธิภาพ อาจรบกวนการทำงานทางเพศและส่งผลต่อภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

  • ผู้ที่มีฮอร์โมนเพศชายต่ำ

สภาวะที่ส่งผลต่อระดับฮอร์โมน เช่น ฮอร์โมนเพศชายต่ำ อาจทำให้เกิดปัญหาการแข็งตัวของอวัยวะเพศทำได้ไม่เต็มที่

  • ผู้ที่เคยได้รับบาดเจ็บหรือผ่าตัด

การบาดเจ็บที่บริเวณอุ้งเชิงกราน หรือการผ่าตัดที่ส่งผลต่อเส้นประสาทหรือหลอดเลือด ที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของอวัยวะเพศ สามารถส่งผลต่อภาวะหย่อนสมรรถนะทางเพศได้เช่นกัน

  • ผู้ที่เป็นโรคอ้วน

การมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน เป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับสภาวะสุขภาพต่าง ๆ รวมถึงโรคเบาหวาน และโรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งอาจส่งผลต่อทำให้เกิดอาการน้องชายไม่แข็งตัว

  • ผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นประจำ มีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม รวมถึงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด การขาดการออกกำลังกายสามารถส่งผลต่อภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

สิ่งสำคัญที่ควรทราบก็คือ การมีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ตั้งแต่หนึ่งปัจจัยขึ้นไป ไม่ได้รับประกันว่าจะประสบกับภาวะ ED  และบุคคลที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้เลย ก็อาจเป็นผู้โชคร้ายกลายเป็นคนที่ตกอยู่ในภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ หากมีใครประสบปัญหาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านสุขภาพทางเพศ เพื่อตรวจหาสาเหตถที่แน่ชัดอย่างละเอียด รวมถึงคำแนะนำ และทางเลือกการรักษาที่เหมาะสมตามสถานการณ์เฉพาะบุคคล

วิธีป้องกันภาวะนกเขาไม่ขัน และอาการหลั่งเร็ว

การรักษาสุขภาพโดยรวมที่ดีและการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ มีส่วนสำคัญในการป้องกันหรือลดความเสี่ยงของการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) นกเขาไม่ขัน เคล็ดลับทั่วไปในการดูแลตนเองเพื่อส่งเสริมสุขภาพทางเพศมีดังนี้

  • การออกกำลังกาย

ออกกำลังกายเป็นประจำ เนื่องจากช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและส่งผลต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดโดยรวม ซึ่งมีความสำคัญต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศ

  • รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ

รับประทานอาหารที่สมดุลและมีคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งอุดมไปด้วยผักผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี โปรตีนไร้มัน และผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำ จำกัดการบริโภคอาหารแปรรูป ไขมันอิ่มตัว และน้ำตาลที่มากเกินไป เนื่องจากอาจทำให้เกิดโรคอ้วนและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ ควรรับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี เช่น หอยนางรม ผักโขม เพราะแร่สังกะสีมีส่วนช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศชาย

  • อย่าปล่อยตัวให้อ้วน

โรคอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างยิ่งต่อภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ดังนั้นการรักษาน้ำหนักให้สมดุล โดยหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน และน้ำตาลสูง รวมถึงหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ ก็จะช่วยรักษาสภาพร่างกายไม่ให้มีน้ำหนักส่วนเกินได้

  • จัดการความเครียด

ความเครียดเรื้อรังสามารถส่งผลต่อภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ พยายามทำจิตใสให้แจ่มใส หางานอดิเรกที่ชอบทำ ออกเดินทางท่องเที่ยว สังสรรค์กับเพื่อน หรือฝึกฝนเทคนิคการลดความเครียด เช่น การทำสมาธิ เล่นโยคะ ก็จะช่วยลดภาวะอารมณ์ที่ตึงเครียดลงได้

  • เลิกสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์

การดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่มากเกินไป สามารถส่งผลต่อภาวะเสื่อมสมรรถภาพได้ จำกัดปริมาณแอลกอฮอล์ และพิจารณาเลิกสูบบุหรี่ เพื่อปรับปรุงสุขภาพหลอดเลือดโดยรวม

  • การตรวจสุขภาพเป็นประจำ

การตรวจสุขภาพเป็นประจำ ช่วยให้คุณทราบถึงความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคที่มีผลทำให้เกิดภาวะ ED อาทิ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ฯลฯ เพื่อป้องกัน และรักษาอย่างทันท่วงที

  • การพักผ่อนให้เพียงพอ

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการพักผ่อนของคุณมีคุณภาพเพียงพอ เนื่องจากการนอนหลับมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม และรักษาความสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายให้ทำงานเป็นปกติ

  • เลิกเสพสื่อลามก

การเสพสื่อลามกมากเกินไป อาจส่งผลต่อความวิตกกังวลด้านประสิทธิภาพ หรือความคาดหวังที่ไม่สมจริง เพราะสมองถูกฝึกให้ตื่นตัวเมื่อเสพสื่อลามกเท่านั้น นอกจากนี้ทำให้เกิดความคาดหวังที่เกินจริงต่อความสามารถในการมีเซ็กส์ของตัวเอง

วิธีรักษาอาการนกเขาไม่ขัน หลั่งเร็ว มีอะไรบ้าง

วิธีรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ Erectile Dysfunction (ED) หรืออาการนกเขาไม่ขัน ทั้งแบบใช้ยา และใช้อุปกรณ์ช่วย มีดังนี้

การบำบัดด้วยยา

  1. ยาในกลุ่มยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ Phosphodiesterase Type 5 (PDE5) ยาเหล่านี้เป็นยารับประทานที่ช่วยเพิ่มผลของไนตริกออกไซด์ ซึ่งเป็นสารเคมีธรรมชาติที่ร่างกายผลิตขึ้น ซึ่งช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้ออวัยวะเพศชาย สารยับยั้ง PDE5 ทั่วไป ได้แก่
  • Sildenafil (Viagra)
  • Tadalafil (Cialis)
  • Vardenafil (Levitra)
  • Avanafil (Stendra)

ยาเหล่านี้ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศชาย ช่วยให้รักษาการแข็งตัวของอวัยวะเพศเมื่อมีอารมณ์ทางเพศ

  1. ยาอัลพรอสตาดิล (Alprostadil)

ยา Alprostadil มีจำหน่ายในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การฉีด ยาเหน็บ และยาเม็ดในท่อปัสสาวะ มีคุณสมบัติช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณองคชาติคลายตัว เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศชาย

  1. การบำบัดด้วยฮอร์โมนทดแทน Testosterone Replacement Therapy (TRT)

เราต่างทราบดีว่าฮอร์โมนเทสโตสสเตอโรน (Testosterone) เป็นตัวขับเคลื่อนสมรรถภาพทางเพศ การไม่สมดุลของฮอร์โมนชนิดนี้ มีส่วนทำให้บุรุษและสตรีเกิดภาวะ ED ได้ โดยเฉพาะเมื่อพ้นวัย 40 ปีไปแล้ว ดังนั้นการบำบัดด้วยการทดแทนฮอร์โมนเพศชาย (TRT) เป็นทางเลือกที่อาจพิจารณาเพื่อคืนสมดุลของฮอร์โมนอีกครั้ง

การบำบัดด้วยอุปกรณ์ช่วยเหลือ

  1. อุปกรณ์สูญญากาศ Vacuum Erection Devices (VED)

VED เป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นกระบอกสูญญากาศ เพื่อดึงเลือดเข้าสู่อวัยวะเพศชาย ทำให้เกิดการแข็งตัวของอวัยวะเพศ จากนั้นจึงติดแถบรัดที่บริเวณโคน เพื่อรักษาการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ทำให้สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้

  1. การปลูกถ่ายอวัยวะเพศชาย

การผ่าตัดปลูกถ่ายจะเกี่ยวข้องกับการใส่อุปกรณ์ที่ทำให้พองหรืออ่อนตัวลงในอวัยวะเพศชาย การปลูกถ่ายช่วยให้สามารถควบคุมระยะเวลาของการแข็งตัวได้ด้วยตนเอง

  1. สายรัดอวัยวะเพศชาย

ห่วงหรือสายรัด จะถูกใช้บริเวณโคนขององคชาต เพื่อรักษาการแข็งตัวของอวัยวะเพศโดยป้องกันไม่ให้เลือดไหลออก มักใช้ร่วมกับการรักษาอื่น ๆ

  1. ผ่าตัดใส่แกนองคชาติเทียม

วิธีนี้แพทย์มักใช้เมื่อรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ ไม่ได้ผล นอกจากนี้ยังต้องทำการผ่าตัดโดยศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะ ซึ่งมีความรู้เฉพาะทางเท่านั้น

รักษาอาการนกเขาไม่ขัน ที่ไหนดี

นอกจากวิธีรักษานกเขาไม่ขัน หรืออาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) ดังที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ได้พัฒนาไปมาก เราสามารถรักษาอาการน้องชายไม่แข็งตัวด้วยเทคนิคใหม่ ๆ ใช้วิธีที่มีความปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด แถมได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง ขอแนะนำหัตถการ P-shot และ Shockwave รักษาภาวะน้องชายไม่แข็งตัว จาก Genitique Clinic คลินิกความงามดูแลปัญหาสุขภาพบริเวณจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะ ดำเนินงานโดยสูตินรีแพทย์เฉพาะทาง ดูแลด้านความงามจุดซ่อนเร้นและสุขภาพเพศ และแพทย์ผู้บรรยายในงานประชุมระดับนานาชาติ
สำหรับจุดเด่นของทั้ง 2 หัตถการมีดังนี้

การบำบัดด้วย Shockwave

การบำบัดอาการนกเขาไม่ขันด้วย Shockwave ED

Shockwave ED เพื่อรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ นกเขาไม่ขัน อาการหลั่งเร็ว เป็นการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ชนิดพิเศษ โดยใช้พลังงานคลื่นเสียงที่มีความเข้มข้นต่ำกระแทกเป็นจังหวะ ๆ กระตุ้นเนื้อเยื่อบริเวณองคชาตที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการแข็งตัว เพื่อให้หลอดเลือดที่เสื่อมสภาพขยายตัวได้ดีขึ้น และกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือดใหม่ ทำให้มีเลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะเพศได้มากขึ้น จึงเกิดการแข็งตัวที่ดีขึ้นและนานขึ้น ช่วยให้มีสุขภาพทางเพศที่ดี หัตถการนี้มีข้อดีคือเป็นหัตถการที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมตนเองโดยธรรมชาติ จึงมีความปลอดภัย แทบไม่มีผลข้างเคียงเลย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้ยา ไม่เจ็บตัว รักษาสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 15 นาที ทำต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ หลังทำคนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ทันทีไม่ต้องพักฟื้น

ใครสามารถทำ Shockwave ED ได้บ้าง

  • ผู้ที่อวัยวัยวะเพศแข็งตัวได้ไม่เต็มที่
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ มีสุขภาพทางเพศที่ดีขึ้น
  • ผู้ป่วยที่มีภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ และมีโรคประจำตัวอื่น ๆ ร่วมด้วย

ผลของการรักษาขึ้นอยู่กับความหนักเบาของอาการคนไข้ในแต่ละคน และการตอบสนองของร่างกายต่อการรักษา

Shockwave For ED รักษาอาการน้องชายไม่แข็ง ราคาเท่าไหร่

หัตถการ Shockwave น้องชายเพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ราคาเริ่มต้นที่ 8,000 บาท/ครั้ง *ทั้งนี้ราคาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความหนักเบาของปัญหา รวมถึงจำนวนครั้งในการรักษา ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินด้วยตัวเอง

บำบัดด้วย P-Shot หรือ PRP

การบำบัดด้วย P-Shot หรือ PRP (Platelet Rich Plasma)

P-Shot หรือ PRP (Platelet Rich Plasma) เป็นขั้นตอนการแพทย์สมัยใหม่ที่รักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการนำเลือดของคนไข้ปริมาณเล็กน้อย นำมาคัดแยกชั้นของพลาสมาด้วยเครื่องปั่นแยกแบบแรงเหวี่ยง เพื่อให้ได้มาซึ่งเกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นสูง จากนั้นนำไปฉีดบริเวณอวัยวะเพศชาย ช่วยทำให้อาการน้องชายไม่แข็งตัวดีขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการผ่าตัด บำบัดด้วย Shockwave มาแล้วแต่ตอบสนองได้ช้า หรืออยู่ได้ไม่นาน อันเนื่องมาจากคนไข้อายุเยอะ ทำให้สารกระตุ้นในการสร้างเส้นเลือดมีน้อยเกินไปไม่เพียงพอ หัตถการนี้มีข้อดีคือ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผลเป็น ทำเสร็จสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ควรงดมีเพศสัมพันธ์ 1-2 วัน

P-Shot เหมาะกับใครบ้าง

  • ผู้ที่อวัยวะเพศแข็งตัวได้ไม่เต็มที่ แข็งตัวได้ไม่นาน การฉีด P-shot สามารถช่วยได้
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ มีสุขภาพทางเพศที่ดีขึ้น
  • ผู้ที่เคยผ่านการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพด้วยวิธี Shockwave มาแล้วแต่ได้ผลช้า หรืออยู่ไม่ได้ไม่นาน การทำ P-shot จะเป็นตัวเสริมที่ดี ช่วยฟื้นฟูได้เร็วขึ้น หวังผลได้มากขึ้น
  • ผลของการรักษาขึ้นอยู่กับความหนักเบาของอาการคนไข้ในแต่ละคน และการตอบสนองของร่างกายต่อการรักษา

P-Shot รักษาอาการน้องชายไม่แข็ง ราคาเท่าไหร่

หัตถการ P-Shot หรือ PRP (Platelet Rich Plasma) เพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ราคาเริ่มต้นที่ 20,000 บาท/ครั้ง *ทั้งนี้ราคาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความหนักเบาของปัญหา รวมถึงจำนวนครั้งในการรักษา ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินด้วยตัวเอง

คำถามที่พบบ่อย

โดยทั่วไปภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ จะพบได้ในผู้ชายที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีงานวิจัยจำนวนมากพบว่าคนอายุน้อยกว่า 40 ปี ถึง 1 ใน 4 เริ่มมีอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้เช่นกัน

หากอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศกลายเป็นปัญหาซ้ำ ๆ หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย แนะนำให้ไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทันที เพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม

ความสำเร็จของการรักษาแตกต่างกันไป และการรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง หลายกรณีสามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคนิคที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับคนไข้แต่ละคน

การซื้อยาบำบัดภาวะ ED รับประทานเอง อาจมีอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้  โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอรับคำแนะนำ และวิธีรักษาที่เหมาะสม

สรุป

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือ นกเขาไม่ขัน เป็นภาวะที่ซับซ้อนและมีหลายแง่มุม ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างละเอียดถี่ถ้วน ตรวจสอบปัจจัยที่หลากหลายที่อาจมีส่วนทำให้เกิดภาวะ ED เสื่อมสมรรถภาพ ที่เรียกกันว่านกเขาไม่ขัน ตั้งแต่สาเหตุด้านกายภาพไปจนถึงด้านจิตใจ ซึ่งต้องอาศัยแพทย์เฉพาะทางด้านการดูแลจุดซ่อนเร้น สำหรับสุภาพบุรุษท่านใดที่ประสบกับอาการเหล่าอย่างต่อเนื่อง แนะนำให้ปรึกษาสูตินรีแพทย์เฉพาะทาง ดูแลด้านความงามจุดซ่อนเร้นและสุขภาพเพศจาก Genitique Clinic เพื่อทำการตรวจประเมินปัญหาสุขภาพโดยรวมของแต่ละบุคคล ระบุสาเหตุที่เป็นไปได้ และแนวทางการรักษาที่เหมาะสม ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัย และเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาให้เกิดผลลัพธ์ตามที่คาดหวังสูงสุด สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือพูดคุยและปรึกษากับสูตินรีแพทย์เฉพาะทาง ดูแลด้านความงามจุดซ่อนเร้นและสุขภาพเพศ และแพทย์ผู้บรรยายในงานประชุมระดับนานาชาติ
ได้โดยตรง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เรายินดีให้บริการอย่างใกล้ชิดทุกเคสค่ะ