รอยแตกลายคืออะไร เรียนรู้วิธีป้องกันและรักษาให้ผิวกลับมาเรียบเนียน

รอยแตกลายอาจเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ บนผิว แต่กลับส่งผลกระทบต่อความมั่นใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นเส้นสีแดง ม่วง หรือขาวที่ปรากฏขึ้นบริเวณหน้าท้อง ต้นขา หรือหน้าอก ล้วนเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนและไม่ใช่เรื่องที่อันตรายต่อสุขภาพ แต่ที่ Genitique Clinic เราเข้าใจดีว่าความเรียบเนียนของผิวมีความสำคัญต่อความรู้สึกของคุณมากเพียงใด บทความนี้ คุณหมอหนึ่งจะพาไปเจาะลึกว่ารอยแตกลายเกิดจากอะไร พร้อมแนะนำวิธีป้องกันและนวัตกรรมการรักษาที่ทันสมัยที่สุดเพื่อคืนความมั่นใจให้ผิวของคุณกลับมาอีกครั้งค่ะ

 รอยแตกลายเกิดจากอะไร?

รอยแตกลาย (Stretch Marks) คือรอยแตกของผิวหนังชั้นกลางที่เกิดจากการยืดขยายอย่างรวดเร็ว เช่น ขณะการตั้งครรภ์ น้ำหนักตัวขึ้น-ลงเร็ว หรือการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงวัยรุ่น เมื่อผิวหนังยืดเกินขีดจำกัด คอลลาเจนและอีลาสตินที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงก็จะเกิดการฉีกขาด ทำให้เกิดรอยแตกเป็นเส้น ๆ บนผิวนั่นเอง

รอยแตกลาย เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง?

นอกจากน้ำหนักที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแล้ว ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดรอยแตกลายได้ ดังนี้:

• พันธุกรรม

หากสมาชิกในครอบครัว เช่น พ่อ แม่ หรือพี่น้อง มีปัญหารอยแตกลาย มีแนวโน้มว่าคุณอาจจะเกิดรอยแตกลายได้ง่ายกว่าคนทั่วไปเช่นกัน เนื่องจากลักษณะของผิวหนังและความยืดหยุ่นอาจได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรม

• ฮอร์โมน โดยเฉพาะฮอร์โมนคอร์ติซอล

ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่หลั่งออกมาเมื่อร่างกายเครียด มีผลในการลดการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น และเมื่อมีการยืดหรือขยายตัวเร็ว ก็จะเกิดรอยแตกลายได้ง่ายขึ้น

• การใช้ยาสเตียรอยด์ในระยะยาว

ทั้งการใช้ยาทา หรือยารับประทานกลุ่มสเตียรอยด์เป็นเวลานาน อาจส่งผลให้ผิวบางลง ความยืดหยุ่นลดลง และเสี่ยงต่อโอกาสเกิดรอยแตกลายได้สูงขึ้น โดยเฉพาะหากใช้โดยไม่มีการควบคุมจากแพทย์

• การออกกำลังกายที่สร้างกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็ว

การเพิ่มขนาดกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็ว เช่น การเล่นเวทเทรนนิ่งอย่างหนัก โดยไม่ได้ให้เวลาแก่ผิวในการปรับตัว อาจทำให้ผิวหนังยืดขยายไม่ทัน ส่งผลให้เกิดรอยแตกลายบริเวณต้นแขน หน้าอก สะโพก หรือบริเวณอื่น ๆ ได้

รอยแตกลายมีกี่ประเภท?

รอยแตกลายสามารถแบ่งตามระยะของการเกิดเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ คือ

รอยแตกลายสีแดงหรือม่วง (ระยะแรกเริ่ม)

รอยแตกลายสีแดงหรือม่วงคือระยะแรกของการเกิดรอยแตกลาย ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่ผิวหนังชั้นกลาง (Dermis) ถูกยืดอย่างรวดเร็ว เช่น ระหว่างการตั้งครรภ์ การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในวัยรุ่น หรือการเพิ่มขนาดกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็ว

ลักษณะเด่นของระยะนี้คือ

• • รอยจะมีสีแดงหรือม่วงเข้ม เพราะยังมีหลอดเลือดเล็ก ๆ มาเลี้ยงอยู่ใต้ผิว
  • ผิวยังมีความยืดหยุ่นบางส่วน และอาจรู้สึกคันหรือระคายเคืองเล็กน้อย
  • เป็นช่วงที่สามารถรักษาได้ดีที่สุด หากได้รับการดูแลที่ถูกต้อง

รอยแตกลายสีชมพูหรือสีผิวอ่อนลง (ระยะกลาง)

ในระยะกลาง รอยแตกลายจะเริ่มเปลี่ยนจากสีแดงหรือม่วงมาเป็นสีชมพูอ่อน หรือสีใกล้เคียงกับผิวปกติ เพราะหลอดเลือดเริ่มลดการไหลเวียนลงในบริเวณนั้น

ลักษณะของรอยในช่วงนี้คือ:

• • สีเริ่มจางลง และดูไม่เข้มเท่าระยะแรก
  • ผิวอาจเริ่มเรียบขึ้น แต่ยังมีร่องตื้น ๆ ให้สังเกตเห็นได้
  • ยังสามารถกระตุ้นการฟื้นฟูด้วยวิธีต่าง ๆ ได้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้เลเซอร์ หรือทาครีมบำรุงผิว

รอยแตกลายสีขาว (ระยะสุดท้าย)

รอยแตกลายสีขาวคือระยะที่รอยแตกลายเข้าสู่สภาวะถาวร ร่างกายหยุดการไหลเวียนเลือดในบริเวณนั้น และคอลลาเจนใต้ผิวถูกจัดเรียงใหม่อย่างไม่เป็นระเบียบ

จุดสังเกตของระยะนี้ ได้แก่:

• • รอยมีลักษณะแบน สีขาวหรือซีดกว่าผิวรอบ ๆ อย่างชัดเจน
  • ผิวบริเวณนี้ขาดความยืดหยุ่น และมักไม่ตอบสนองต่อการรักษาเท่ากับระยะแรก ๆ
  • การรักษาในระยะนี้ต้องใช้เทคนิคที่ลึกขึ้น เช่น เลเซอร์ระดับลึก หรือหัตถการที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่

รอยแตกลายมักเกิดบริเวณไหนของร่างกาย?

ส่วนใหญ่แล้วจะพบได้ในจุดที่ผิวหนังมีการยืดตัวมาก เช่น

• หน้าท้อง
• สะโพก
• ต้นขา
• หน้าอก
• ต้นแขน
• หลังช่วงล่าง

รอยแตกลายมักเกิดกับใคร?

ไกด์สำหรับทำภาพประกอบบทความ สามารถปรับเปลี่ยนภาพได้ตามความเหมาะสมครับ

• หญิงตั้งครรภ์
• ผู้ที่น้ำหนักเปลี่ยนแปลงเร็ว
• ผู้ที่ออกกำลังกายเพิ่มกล้ามอย่างเข้มข้น
• ผู้ที่มีพันธุกรรมหรือฮอร์โมนไม่สมดุล
• วัยรุ่นที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโตเร็ว

วิธีป้องกันรอยแตกลาย ทำอย่างไรได้บ้าง?

ทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำ: โดยเฉพาะครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินอี เชียบัตเตอร์ หรือไฮยาลูรอนิค

ดื่มน้ำให้เพียงพอ: เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นจากภายใน

ควบคุมน้ำหนัก: ไม่เพิ่มหรือลดเร็วเกินไป

นวดผิว: เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด

ทานอาหารที่ช่วยสร้างคอลลาเจน: เช่น ปลา ถั่ว และผักใบเขียว

วิธีรักษารอยแตกลาย

วิธีธรรมชาติ : ทาผิวด้วยน้ำมันมะพร้าว น้ำมันอาร์แกน หรือว่านหางจระเข้

ครีมลดรอยแตกลาย : ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของเรตินอล หรือกรดไกลโคลิก

หัตถการทางการแพทย์ : รักษาด้วยเลเซอร์ อาทิ Microneedling, Radiofrequency, หรือ PRP (Growth Factor)

รักษารอยแตกลายที่ไหนดี

สำหรับท่านใดที่มีปัญหารอยแตกลาย ผิวแตกลาย ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทำให้เสียความมั่นใจ ขอแนะนำโปรแกรม GeniYouth Laser จาก Genitique Clinic รักษาผิวแตกลาย ด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ 1470 nm (Non abrative laser) เทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อผิวโดยเฉพาะ มีความอ่อนโยน ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น คนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ รักษาปัญหาผิวแตกลายได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น ก้น หน้าท้อง หน้าอก แผลเป็นหลังคลอด ฯลฯ ทั้งหมดดูแลโดย แพทย์หญิง ธนวรรณ ศิริสุข (คุณหมอหนึ่ง) สูตินรีแพทย์เฉพาะทางฯ ดูแลด้านความงามจุดซ่อนเร้นและสุขภาพเพศ จึงรู้และเข้าใจปัญหาของคนไข้เป็นอย่างดี แถมคุณหมอลงมือทำหัตถการด้วยตนเอง คนไข้จึงมั่นใจได้ถึงผลลัพธ์และความปลอดภัย นอกจากนี้คลินิกยังได้มาตรฐาน มีความเป็นส่วนตัว คุณหมอเป็นกันเอง และพนักงานก็เป็นผู้หญิงทั้งหมด คนไข้จึงไม่ต้องกังวลแต่อย่างใดค่ะ

รักษารอยแตกลายที่ Genitique Clinic ราคาเท่าไหร่?

โปรแกรม GeniYouth Laser รักษารอยแตกลาย คนไข้สามารถสอบถามโปรโมชั่นค่าบริการล่าสุดได้โดยตรงกับทางคลินิกค่ะ *ทั้งนี้ราคาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่ช่วงเวลา ลักษณะอาการของคนไข้และการพิจารณาของแพทย์ ขอแนะนำให้คนไข้เข้ามาพบคุณหมอด้วยตัวเอง เพื่อทำการวิเคราะห์ปัญหา และประเมินการรักษาที่เหมาะสมส่วนบุคคลอย่างละเอียดอีกครั้งค่ะ

คำถามที่พบบ่อย

Q: รอยแตกลายรักษาหายขาดไหม?

A: หายยากแต่จางได้ถ้าดูแลอย่างถูกวิธี

* ผลลัพธ์ขึ้นกับบุคคล

Q: ต้องรักษากี่ครั้ง?

A: จำนวนครั้งที่แนะนำคือ 3-6 ครั้ง ทำห่างกันทุก 2-3 สัปดาห์ ผลลัพธ์จะคงอยู่นานเป็นปี ก่อนเริ่มลดระดับใน 18-24 เดือน

* ผลลัพธ์ขึ้นกับบุคคล

Q: ใช้ครีมลดรอยแตกลายยี่ห้อไหนดี?

A: เลือกครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอล วิตามินอี หรือสารช่วยกระตุ้นคอลลาเจน

Q: ผู้ชายมีรอยแตกลายได้ไหม?

A: ได้เช่นกัน โดยเฉพาะคนที่เพิ่มกล้ามเนื้อเร็ว

Q: เริ่มดูแลตอนไหนดีที่สุด?

A: ทันทีที่เริ่มเห็นรอยหรืออยู่ในช่วงเสี่ยง เช่น ตั้งครรภ์ หรือเริ่มออกกำลังกายหนัก

สรุป: คืนความมั่นใจให้ผิวเรียบเนียนอีกครั้ง

แม้รอยแตกลายจะไม่ใช่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของเราไม่น้อยเลยค่ะ การทำความเข้าใจสาเหตุ, รู้จักวิธีป้องกัน, และเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่เนิ่นๆ คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาเรียบเนียนสวยได้อีกครั้ง ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มมีรอยแตกลาย หรือมีรอยสีขาวที่อยู่มานานแล้ว ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะเริ่มต้นดูแลอย่างถูกวิธี

ที่ Genitique Clinic เราพร้อมเป็นพื้นที่ปลอดภัยและให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ หากท่านสนใจโปรแกรม GeniYouth Laser หรือต้องการประเมินปัญหารอยแตกลาย สามารถติดต่อเราเพื่อปรึกษาส่วนตัวกับคุณหมอหนึ่งได้โดยตรง:

LINE: @Genitiqueclinic
โทร: 062-924-4966